คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1714/2493

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความผิดฐานแจ้งความเท็จตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 118 นั้น มีหลักเกณฑ์สำคัญอยู่ประการหนึ่งว่าผู้แจ้งได้รู้อยู่แล้วว่าความที่เอาไปแจ้งนั้นเป็นความเท็จฉะนั้นเมื่อจำเลยเอา ความไปแจ้งแก่เจ้าพนักงานตามที่จำเลยเชื่อว่าเป็นความจริงแล้วจำเลยก็ไม่มีความผิดตามมาตรา 118

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยนำเอาความซึ่งอยู่แล้วว่าเป็นเท็จไปแจ้งต่อปลัดอำเภอศรีราชาว่า นายทองใบโจทก์กับนายดำและนายล้าน ลักทรัพย์ โดยรื้อเรือนไม้ราคา ๕๐๐ บาทของจำเลยไป
จำเลยต่อสู้ว่า จำเลยไปแจ้งความเท็จตามฟ้องโดยสุจริต โดยมีบุตรรู้เห็นแจ้งให้จำเลยทราบจำเลยหาได้รู้ไม่ว่า ข้อความที่จำเลยแจ้งนั้นเป็นเท็จ
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ว่า จำเลยผิดตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา ๑๑๘
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่าคดีนี้ปรากฎว่านายนาได้เห็นคนหลายคนกำลังรื้อเรือนของจำเลยที่ซื้อนายพุ่มไว้ และเห็นนายดำบุตรของโจทก์แบกกระดานออกมานายนาได้ถามว่าทำไมรื้อเรือนจำเลยเสียนายคำตอบว่าพ่อเขาให้รื้อ แล้วนายดำก็แบกกระดานนั้นไปยังบ้านโจทก์ดังนี้ เมื่อนายนาบอกความตามที่รู้เห็นแก่จำเลย ๆ จึงมีเหตุผลเพียงพอที่จะเชื่อว่า โจทก์สมคบกับนายดำนายล้านมาลักรื้อเรือนของจำเลยไป จำเลยจึงเอาความไปแจ้งแก่เจ้าพนักงานตามที่จำเลยเชื่อว่า เป็นความจริงคดีไม่มีทางจะฟังว่าจำเลยเอาความที่รู้อยู่ว่าเป็นเท็จไปแจ้ง จำเลยจึงหามีความผิดตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา ๑๑๘ ไม่
พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ให้ยกฟ้องปล่อยจำเลยไป

Share