แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยออกเช็คชำระหนี้โจทก์ ตามสัญญาซื้อขายบ้านที่จำเลยเป็นผู้ซื้อ เช็คถึงกำหนดแล้ว โจทก์เบิกเงินไม่ได้เพราะธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินเนื่องจากเงินในบัญชีไม่พอจ่าย เมื่อปรากฏว่าการซื้อขายบ้านอันเป็นการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์นั้นไม่ได้จดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ ตกเป็นโมฆะ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 456วรรคแรก เช็คพิพาทเป็นเช็คชำระหนี้ตามสัญญาที่เป็นโมฆะจึงไม่อาจใช้สิทธิเรียกร้องได้ ดังนี้ การกระทำของจำเลยไม่เป็นความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ.2497 มาตรา 3
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยออกเช็คชำระหนี้โจทก์ ถึงกำหนดแล้ว ได้นำไปขึ้นเงินแต่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2497 มาตรา 3
ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้ว มีคำสั่งประทับฟ้อง
จำเลยให้การว่า เช็คตามฟ้องเกิดจากนิติกรรมที่เป็นโมฆะ โจทก์ไม่ใช่ผู้เสียหาย จำเลยไม่ได้กระทำผิด
ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า เช็คพิพาทจำเลยออกให้โจทก์เป็นค่าซื้อบ้านตามสัญญาซื้อขายเอกสารหมาย จ.2 เป็นการซื้อขายเสร็จเด็ดขาด แต่เป็นสัญญาที่ทำกันเองไม่ได้จดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ การซื้อขายไม่สมบูรณ์ และบ้านก็มิได้มีชื่อโจทก์เป็นเจ้าของไม่มีผลที่จะทำให้การซื้อขายสำเร็จ เมื่อหนี้ไม่สมบูรณ์ จำเลยก็ไม่จำต้องจ่ายเงินตามเช็คจำเลยไม่มีความผิดตามฟ้อง พิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา ศาลชั้นต้นรับฎีกาเฉพาะปัญหาข้อกฎหมาย
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ตามที่โจทก์ฎีกาว่าข้อตกลงตามเอกสารหมาย จ.2 เป็นสัญญาประนีประนอมยอมความและเป็นนิติกรรมที่สมบูรณ์ มีผลผูกพันคู่สัญญานั้นศาลฎีกาเห็นว่า ตามสัญญาข้อ 2 ในเอกสารหมาย จ.2 เป็นข้อตกลงซื้อขายบ้านแต่มิได้กล่าวว่าจะไปทำการโอนหรือจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่แต่อย่างใดกลับมีข้อตกลงให้โจทก์ขนย้ายของออกและส่งมอบบ้านที่ขายให้จำเลย แสดงชัดว่าประสงค์จะให้การซื้อขายเสร็จสิ้นกันไปแต่ในวันทำสัญญา ลักษณะเช่นนี้เป็นสัญญาซื้อขายทรัพย์สินหาใช่สัญญาประนีประนอมยอมความไม่ การซื้อขายบ้านเป็นการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ เมื่อมิได้ทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ย่อมตกเป็นโมฆะตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 456 วรรคแรก เช็คพิพาทเป็นเช็คชำระหนี้ตามสัญญาที่เป็นโมฆะ จึงไม่อาจใช้สิทธิเรียกร้องได้ที่ศาลล่างทั้งสองวินิจฉัยว่าการกระทำของจำเลยไม่เป็นความผิดนั้น ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย
พิพากษายืน