คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1337/2503

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

เดิมจำเลยยื่นคำร้องขออุทธรณ์อย่างคนอนาถา จำเลยแถลงในวันนัดไต่สวนว่า พยานมาไม่ครบและว่าเพื่อไม่ให้ยุ่งยาก จำเลยขอขยายอายุอุทธรณ์ไป 15 วัน เพื่อนำเงินค่าธรรมเนียมมาชำระศาลอนุญาต เช่นนี้ มีผลเสมอด้วยจำเลยขอถอนคำร้องขออนาถาเสียแล้ว ต่อมาเมื่อครบกำหนดดังกล่าว จำเลยจะมาแถลงว่าหาเงินค่าธรรมเนียมไม่ได้ ขอให้ศาลไต่สวนคำร้องขอใหม่ และขอขยายอายุอุทธรณ์ (เมื่อขาดอายุอุทธรณ์แล้ว) อีกหาได้ไม่

ย่อยาว

ศาลชั้นต้นพิพากษาคดีนี้เมื่อวันที่ ๑๖ ต.ค. ๒๕๐๒ ห้ามไม่ให้จำเลยและบริวารเข้าขัดขวางการทำนาแปลงนี้ และให้ยกฟ้องแย้งของจำเลย
จำเลยทั้งสองอุทธรณ์พร้อมกับยื่นคำร้อง เมื่อวันที่ ๑๓ พ.ย. ๒๕๐๒ ขอฟ้องอุทธรณ์อย่างคนอนาถา ศาลชั้นต้นนัดไต่สวนวันที่ ๗ ธ.ค. ๒๕๐๓ ถึงวัดนัดจำเลยแถลงต่อศาลว่า พยานจำเลยมาศาลไม่ครบ แต่จำเลยเห็นว่า เพื่อไม่ให้เกิดความยุ่งยากจำเลยจะนำเงินค่าธรรมเนียมมาชำระเพื่อฟ้องอุทธรณ์ แต่ขอผัดผ่อนไป ๑๕ วัน โดยขอให้ศาลขยายระยะเวลาอุทธรณ์ให้โจทก์แถลงว่า แล้วแต่ศาล ศาลสั่งอนุญาตให้จำเลยนำเงินค่าธรรมเนียมมาวางศาลใน ๑๕ วัน พอครบ ๑๕ วัน จำเลยยื่นคำแถลงว่า หาเงินค่าธรรมเนียมไม่ได้ ขอให้ศาลไต่สวนพยานเรื่องอนาถาต่อไป ศาลสั่งว่า เป็นเรื่องที่จำเลยสมัครใจขอวางเงินค่าธรรมเนียมต่อศาลในกำหนด ศาลอนุญาตแล้วคำขอที่จำเลยขอฟ้องอนาถาจึงยุติลง ไม่มีทางจะให้ไต่สวนอีก จึงให้ยกคำร้อง
ต่อมาอีก ๒ วัน นายจำปาจำเลยยื่นคำร้องต่อศาลชั้นต้นว่า จำเลยมิได้สมัครใจขอชำระค่าธรรมเนียมภายในกำหนดเลย แต่เมื่อศาลสั่งให้พยายามหาเงินมาชำระค่าธรรมเนียม จำเลยก็วิ่งเต้นหาเงินแต่ไม่ได้ จำเลยเป็นคนยากจนอนาถาจริง ดๆ ขอให้ศาลพิจารณาคำร้องขอฟ้องอุทธรณ์อนาถาใหม่ และอนุญาตให้จำเลยนำพยานมาให้ศาลไต่สวนอนาถาต่อไป ศาลสั่งแล้ว ไม่มีเหตุจะเปลี่ยนแปลงคำสั่ง ให้ยกคำร้อง
นายจำปาจำเลยอุทธรณ์ ขอให้สั่งศาลชั้นต้นไต่สวนคำร้องขอฟ้องอุทธรณ์อนาถาของจำเลยต่อไปและ ขอให้ขยายอายุความอุทธรณ์ให้ด้วย
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามคำสั่งศาลชั้นต้น
นายจำปาจำเลยฎีกา
ศาลฎีกาแยกพิจารณาเป็น ๒ ตอน คือ
(๑) ตอนที่ศาลชั้นต้นสั่งยกคำร้องของจำเลยครั้งแรก ศาลฎีกาเห็นว่า การที่จำเลยอ้างเหตุว่า เพื่อไม่ให้เกิดความยุ่งยากจึงขอเวลาไปหาเงินค่าธรรมเนียม ๑๕ วัน และขอขยายระยะเวลาอุทธรณ์ในกำหนดเดียวกัน ศาลจึงระงับการไต่สวนและสั่งอนุญาต ซึ่งต้องถือว่า จำเลยไม่ติดใจให้ไต่สวนคำร้องขออนาถาต่อไปแล้ว เมื่อจำเลยไม่นำเงินค่าธรรมเนียมมาชำระภายในกำหนดที่ศาลขยายเวลาให้ อุทธรณ์ของจำเลยก็ไม่เป็นอุทธรณ์ที่จะรับไว้พิจารณา อย่างไรก็ตามคำสั่งของศาลชั้นต้นในตอนนี้จำเลยมิได้อุทธรณ์ แต่จำเลยได้ยื่นคำร้องต่อศาลชั้นต้นแทนการอุทธรณ์ ขอให้พิจารณาคำร้องขอฟ้องอุทธรณ์อนาถาจำเลยใหม่อีกครั้งหนึ่ง คำสั่งของศาลชั้นต้นให้ตอนนี้จึงยุติไปแล้วตั้งแต่ในชั้นนั้น
(๒) ตอนที่ศาลชั้นต้นสั่งยกคำร้องของจำเลยครั้งหลังที่ขอให้พิจารณาคำร้องขออนาถา จำเลยอ้างว่า จำเลยขอให้พิจารณาใหม่ได้ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๑๕๖ วรรค ๔ ศาลฎีกาเห็นว่า ตามวรรค ๔ นั้น น่าจะหมายถึง เฉพาะในกรณีที่ศาลได้ไต่สวนคำร้องขออนาถาและมีคำสั่งไม่ให้อนาถาหรือให้อนาถาเพียงบางส่วนไปแล้ว ผู้ขออนาถาอาจยื่นคำร้องขอให้พิจารณาคำขอนั้นใหม่ได้ เท่านั้น ไม่ตรงกับกรณีในคดีนี้ซึ่งเป็นเรื่องที่มีผลเสมอด้วยขอถอนคำร้องขออนาถาไปแล้ว ครั้งหนึ่ง ต่อมากลับใจจะขออนาถาใหม่ภายหลังที่ขาดอายุความอุทธรณ์แล้วย่อมไม่มีผลที่ศาลจะพึงดำเนินการไต่สวนคำร้องดังกล่าวแต่ประการใด ไม่มีเหตุอันควรที่จำเลยจะมาร้องขอให้ศาลขยายอายุความอุทธรณ์ ในเมื่ออายุความอุทธรณ์ได้ขาดไปแล้ว กรณีเช่นนี้ไม่ใช่เป็นพฤติการณ์พิเศษ หรือมีเหตุสุดวิสัย

Share