คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 443/2486

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ฟ้องโจทกล่าวว่าเกิดเหตุเวลากลางวันทางพิจารนาได้ความว่าเกิดเหตุเวลากลางคืน สาลก็ต้องยกฟ้อง
ฟ้องต้องระบุเวลาเกิดเหตุทุกเรื่องไป เว้นแต่จะเปนกรนีที่ไม่+เวลากะทำผิด ฟ้องจะต้องมีข้อความที่จำเลยจะเข้าใจข้อหาได้ดี

ย่อยาว

คดีนี้โจทฟ้องว่า เวลาวันจำเลยได้วิ่งราวส้อยคอทอง++เข้าไป ๑ สายขอไห้ลงดทส
สาลชั้นต้นพิจารนาแล้วพิพากสาว่า จำเลยมีความผิดต้องด้วยกดหมายลักสนะอาญามาตรา ๒๙๗ จำคุก ๓ ปี
จำเลยอุธรน์ สาลอุธรน์ฟังว่าเหตุเกิดเวลากลางคืนจึงพิพากสากลับให้ยกฟ้องโจท
โจทกดีกาว่า เกิดเหตุเวลาคาบเกี่ยวระหว่างกลางวันกับกลางคืน แต่เวลากลางวันหรือกลางคืนไม่ไช่สาระสำคัญแห่งองค์ความผิด และจำเลยไม่ได้หลงต่อสู้ประการไดสาลดีกาเห็นว่า เวลาเกิดเหตุเปนสิ่งสำคันอันหนึ่งที่ตัองระบุมาไนฟ้อง เว้นแต่ในกรนีที่ไม่ซาบเวลากะทำผิด แต่คดีนี้ โจทฟ้องว่าเกิดเหตุเวลากลางวัน แต่ทางพิจารนาได้ความว่า เกิดเหตุไนเวลากลางคืน ย่อมถือได้ว่าทางพิจารนากับฟ้องแตกต่างกันไนข้อเวลา
และที่โจทกกล่าวว่า จำเลยไม่ได้หลงข้อต่อสู้นั้นแม้เปนดังนั้นจึงก็ไม่เปนเหตุไนอันที่จะกะทำไห้โจทสมบูรน์ขึ้นเพราะห้องนั้นต้องมีข้อทราบพอที่จำเลยจะเข้าไจข้อหาโดยดี เมื่อฟ้องเปนฟ้องที่จำเลยไม่อาดเข้าไจข้อหาได้ดีแล้วสาลก็ต้องยกฟ้อง จึงพิพากสายืนตามสาลอุธรน์

Share