แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ในเรื่องทรัพย์สินที่ใช้พนันกันนั้น พ.ร.บ.การพนันบัญญัติให้ริบไว้เป็นพิเศษเฉพาะที่จับได้ในวงเล่น ฉะนั้น จะใช้ ก.ม.อาญามาใช้บังคับไม่ได้
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยสมคบกันเล่นการพนันไพ่เผ โดยจำเลยที่ ๑ เป็นผู้จัดให้เล่นและเป็นผู้เล่นด้วย จำเลยที่ ๓ เคยต้องโทษฐานเล่นไพ่เผพ้นโทษยังไม่ครบ ๓ ปี ขอให้ลงโทษและเพิ่มโทษ
จำเลยทุกคนให้การปฏิเสธ ส่วนข้อต้องโทษรับ
ศาลชั้นต้นฟังว่า จำเลยเล่นจริง แต่ไพ่ป๊อกของกลางยังไม่พอจะเชื่อว่าใช้ในการเล่นรายนี้ และเงินของกลาง ๕,๐๐๐ บาท ก็ยังฟังไม่ได้ว่าใช้ในการเล่นคดีนี้ พิพากษาปรับจำเลยที่ ๑ ผู้จัดให้เล่น ๑,๐๐๐ บาท ปรับจำเลยที่ ๒,๔,๕ คนละ ๘๐๐ บาท ส่วนจำเลยที่ ๓ จำคุก ๑ เดือน ปรับ ๘๐๐ บาท ตาม พ.ร.บ.การพนัน พ.ศ.๒๔๗๘ ม.๔,๑๐,๑๒ ฉบับที่ ๔ พ.ศ.๒๔๘๕ ม.๔ และฉบับที่ ๓ พ.ศ.๒๔๘๕ ม.๓ ของกลางไม่ริบ
จำเลยอุทธรณ์ขอให้ยกฟ้อง โจทก์อุทธรณ์ขอให้ริบของกลางศาลอุทธรณ์เห็นว่าคดีฟังไม่ได้ถนัดว่าจำเลยกระทำผิด พิพากษากลับให้ยกฟ้อง
โจทก์ฎีกาขอให้ลงโทษและริบของกลาง
ศาลฎีกาฟังว่า จำเลยเล่นการพนันไพ่เผจริง สำหรับไพ่ป๊อกของกลางยังฟังไม่ถนัดว่าใช้ในการเล่นพนันรายนี้จึงไม่ควรริบ ส่วนเงินของกลาง ๕,๐๐๐ บาท แม้จะฟังว่าเป็นเงินที่ใช้เล่นพนันกันในคดีนี้ก็ดี แต่ข้อเท็จจริงโจทก์นำสืบว่าจับได้จากตัวจำเลยภายหลังจากที่ได้มีการเล่นแล้วหนึ่งวัน โดยว่าจำเลยรับว่าเป็นเงินที่เล่นการพนันได้มา จึงยึดมาเป็นของกลาง ตาม พ.ร.บ.การพนัย พ.ศ.๒๔๗๘ ม.๑๐ บัญญัติว่า ทรัพย์สินพนันกันซึ่งจับได้ในวงเล่น ฯลฯ ให้ริบเสียทั้งสิ้น เครื่องใช้ในการเล่นให้ริบได้ตาม ก.ม.อาญา จึงเห็นได้ว่า พ.ร.บ.การพนันได้บัญญัติไว้เป็นพิเศษว่าทรัพย์สินที่พนันกันนั้นให้ริบเฉพาะที่จับได้ในวงเล่น เมื่อเงินของกลางรายนี้ไม่ได้จับได้ในวงเล่น จึงไม่ริบ ศาลฎีกาพิพากษากลับให้บังคับคดีลงโทษไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น