แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
นับแต่วันที่เด็กจดทะเบียนเป็นบุตรบุญธรรมของผู้อื่น มารดาของเด็กย่อมหมดอำนาจปกครองตาม ป.ม.แพ่ง ม.1586
เมื่อผู้รับบุตรบุญธรรมตายไปแล้วก็ดี เด็กก็ยังเป็นบุตรบุญธรรมของผู้ตายอยู่และอยู่ในสกุลของผู้ตาย
มารดาของเด็กจะได้อำนาจปกครองเด็กอันเป็นบุตรบุญธรรมของคนอื่นคืนมาก็ต่อเมื่อมีการเลิกรับบุตรบุญธรรมตาม ป.ม.แพ่ง มาตรา 1588,1589 แต่การตายของผู้รับบุตรบุญธรรมนั้นหาได้ทำให้การรับบุตรบุญธรรมเลิกกันตามบทมาตราทั้งสองดังกล่าวไม่ โจทก์ซึ่งเป็นมารดาของเด็กมาฟ้องเรียกคืนโดยอ้างถึงความมรณะของผู้รับบุตรบุญธรรมนั้น คดีของโจทก์จึงชอบที่จะยกฟ้องเสีย.
ประชุมใหญ่ครั้งที่ 10/2492
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยส่งตัวเด็กชายบุญธรรมหรือชอบซึ่งเป็นบุตรโจทก์ให้แก่โจทก์ โดยกล่าวว่า โจทก์ยกเด็กชายบุญธรรมให้เป็นบุตรบุญธรรมของนายต่วน บัดนี้นายต่วนถึงแก่กรรม โจทก์ขอรับเด็กคืน จำเลยไม่ยอมส่งคืน จำเลยให้การและฟ้องแย้งว่า โจทก์ได้ยกเด็กชายบุญธรรมให้เป็นบุตรบุญธรรมของนายต่วนและจำเลยด้วย โดยเวลานั้นจำเลยเป็นภรรยานายต่วน ต่อมาจำเลยและนายต่วนได้หย่าขาดจากสามีภริยากัน และตกลงกันให้เด็กชายบุญธรรมให้แก่นายต่วนคนเดียว เวลานั้นจำเลยเป็นภริยานายต่วนและได้ให้ความยินยอมขอจดทะเบียนรับบุตรบุญธรรมเท่านั้น และปฏิเสธความรับผิดในเรื่องค่าเสียหาย ศาลชั้นต้นสั่งงดสืบพะยานแล้วพิพากษาให้จำเลยส่งตัวเด็กชายบุญธรรมให้โจทก์ ยกข้อหาค่าเสียหายและยกฟ้องแย้ง ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกาขอให้ยกฟ้อง
ศาลฎีกาได้วินิจฉัยโดยที่ประชุมใหญ่ว่า นับวันเวลาที่เด็กชายบุญธรรมเป็นบุตรบุญธรรมของนายต่วนเป็นต้นมาแล้ว โจทก์ซึ่งเป็นมารดาหมดอำนาจปกครองตาม ป.ม.แพ่งมาตรา ๑+๘๖ แม้นายต่วนตายไปแล้วก็ดี เด็กก็ยังเป็นบุตรบุญธรรมของนายต่วนและในสกุลโชติญาโณของนายต่วนอยู่ โจทก์จะได้อำนาจปกครองเด็กคืนมา ก็ต่อเมื่อมีการเลิกรับบุตรบุญธรรมตาม ป.ม.แพ่งมาตรา ๑๕๘,๑๕๘๙ คดีนี้โจทก์ฟ้องเรียกเด็กคืนโดยอ้างถึงความมรณะของนายต่วน หาใช่การเลิกตามกฎหมายดังกล่าวมาแล้วไม่ คดีต้องยกฟ้อง ใครจะเป็นผู้ปกครองเด็กนั้น ในชั้นนี้ไม่มีปัญหาวินิจฉัย
พิพากษากลับ ให้ยกฟ้อง.