แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
วันชี้สองสถานจำเลยแถลงว่าฟ้องเคลือบคลุม ศาลสั่งว่า เมื่อจำเลยว่าฟ้องเคลือบคลุมก็ให้โจทก์แถลงในข้อนี้แล้ว ศาลชั้นต้นก็อนุญาตให้โจทก์นำสืบถึงข้อที่โจทก์แถลงต่อหน้าศาลได้ ฝ่ายจำเลยหาได้โต้แย้งคำสั่งศาลตาม ป.ม.วิ.แพ่ง มาตรา 226 ไม่ จำเลยจึงฎีกาในข้อนี้ไม่ได้.
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ ๑ ได้ตกลงให้โจทก์นำข้าวจ้าวและข้าวเหนียวมาส่งโรงสีจำเลยที่ ๒ วันที่ ๒๐ มีนาคม ๒๔๙๐ โจทก์ได้ส่งข้าวเปลือกชะนิดข้าวจ้าว ๔ เกวียน ชะนิดข้าวเหนียว ๑ เกวียน ๓๕ ถังครึ่งให้แก่จำเลยที่ ๑ จำเลยได้ชำระค่าข้าวเหนียวให้แก่โจทก์แล้ว แต่ค่าข้าวจ้าวจำเลยไม่ชำระให้ จึงขอให้ศาลบังคับ จำเลยให้การแก้ว่า ในวันที่ ๒๐ มีนาคม ๒๔๘๙ จำเลยได้ซื้อข้าวจากผู้อื่น และได้ชำระราคากันไปแล้ว วันชี้สองสถานโจทก์แถลงว่า โจทก์ได้ตกลงกับจำเลยที่ ๑ เมื่อวันที่ ๑๙ มีนาคม รุ่งขึ้นโจทก์ก็นำข้าวไปขายให้จำเลย จำเลยแถลงว่า ฟ้องเคลือบคลุม และนอกฟ้องไม่ควรให้สืบ ศาลชั้นต้นสั่งให้โจทก์แถลงในข้อนี้และให้โจทก์นำสืบถึงข้อที่โจทก์แถลงนั้นได้ จำเลยหาได้ทักท้วงว่าอย่างใดไม่ ศาลชั้นต้นฟังว่าโจทก์สืบไม่ได้ว่าได้ตกลงซื้อขายกันกับจำเลยแล้ว พิพากษายกฟ้อง
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้โจทก์ชนะคดี
จำเลยฎีกา,
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า เรื่องฟ้องเคลือบคลุมตามที่ศาลชั้นต้นสั่งในวันชี้สองสถาน เมื่อจำเลยว่าฟ้องเคลือบคลุม ศาลได้ให้โจทก์แถลงแล้ว คือ ได้ตกลงกันในวันที่ ๑๕ มีนาคม จึงไม่เป็นการเคลือบคลุม และศาลชั้นต้นได้ดำเนินคดี โดยอนุญาตให้โจทก์นำสืบถึงข้อที่โจทก์ได้แถลงต่อศาลได้ ฝ่ายจำเลยหาได้โต้แย้งคำสั่งศาลตาม ป.ม.วิ.แพ่งมาตรา ๒๒๖ ไม่ จำเลยจึงฎีกาในข้อนี้ไม่ได้ ข้อเท็จจริงคงฟังได้ตามศาลอุทธรณ์
พิพากษายืน