แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์ฟ้องบรรยายข้อเท็จจริงว่าจำเลยลักทรัพย์ แล้วเจ้าพนักงานจับจำเลยได้พร้อมด้วยทรัพย์ของกลางโทษจำเลยรับไว้โดยรู้ว่าเป็นของร้ายได้มาโดยกระทำผิดดังนี้เป็นฟ้องเคลือบคลุมต้องยกฟ้อง อ้างฎีกาที่ 975/2480 ในคดีที่พนักงานอัยยการเป็นโจทก์ยื่นฟ้องต่อศาลไว้แล้วผู้เสียหายยื่นคำร้องขอเข้าร่วมเป็นโจทก์ด้วยเช่นนี้เมื่อปรากฎว่าฟ้องของอัยยการโจทก์บกพร่องต้องยกฟ้องแล้วก็ทำให้คำร้องของผู้เสียหายพลอยตกไปด้วย
ย่อยาว
อัยยการโจทก์ฟ้องว่าจำเลยลักไม้ซุงของบริษัทยอเนียว ๑ ต้น บริษัทบอมเบเบอร์มา ๑ ต้น เจ้าพนักงานจับจำเลยได้พร้อมด้วยของกลางโดยจำเลยรับไว้โดยรู้ว่าเป็นของได้มาโดยการกระทำผิด และได้ทำลายดวงตราที่ประทับไว้บนซุงทั้ง ๒ ต้นนั้น ขอให้ลงโทษ
บริษัทผู้เสียหายทั้ง ๒ ขอเข้าร่วมเป็นโจทก์กับอัยยการฉะเพาะข้อหาฐานรับของโจรฟ้องเคลือบคลุม
อัยยการโจทก์และผู้เสียหายฎีกา
ศาลฎีกาตัดสินว่าฟ้องของโจทก์กล่าวยืนยันมาในตอนต้นว่าจำเลยลักทรัพย์ ครั้นแล้วกลับว่าจำเลยรับของโจรซึ่งเป็นข้อเท็จจริงคนละอย่างขัดแย้งกันไม่ทำให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดี ศาลย่อมจะยกฟ้องเสียได้ตาม ม.๑๖๑ แห่งประมวลวิธีพิจารณาอาญา ที่ศาลอุทธรณ์ให้ยกฟ้องเสียนั้นชอบด้วยบรรทัดฐานฎีกาที่ ๙๗๕/๒๔๘๐ แล้ว อนึ่งจำเลยได้ยกเรื่อฟ้องเคลือบคลุมนี้ขึ้นแต่ศาลชั้นต้นและได้แถลงคัดค้านในชั้นอุทธรณ์ด้วย ศาลอุทธรณ์จึงยกขึ้นวินิจฉัยได้ ที่ผู้เสียหายคัดค้านว่าฟ้องของผู้เสียหายขอให้ลงโทษแต่ฉะเพาะฐานรับของโจรอย่างเดียวจึงไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุมนั้น เห็นว่าผู้เสียหายไม่ได้ฟ้องเป็นคดีต่างหาก แต่ได้ยื่นคำร้องของร่วมเป็นโจทก์กับอัยยการซึ่งไม่ทำให้คำร้องเป็นฟ้องขึ้นอีกหนึ่งไม่ เมื่อฟ้องของอัยยการไม่ถูกต้องก็ไม่มีอะไรจะพิจารณาเอาผิดแก่จำเลยได้ พิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์