คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 183/2481

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยลักลอบตัดฟันชักลากไม้สักโดยมิได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานแล้วมาเลื่อยออกเป็นไม้เหลี่ยม เมื่อจำเลยต่อสู้ว่าไม้เหลี่ยมที่จับได้นั้นเป็นไม้ที่จำเลยได้+มาจากผู้มีชื่อเป็นหน้าที่ของจำเลยจะต้องนำสืบให้สมข้อต่อสู้นั้น จำเลยลักลอบตัดฟันชักลากไม้สักโดยมิได้รับอนุญาตแล้วมาเลื่อยไม้ต้นที่ตัดมานั้นเป็นไม้เหลี่ยม ๆ เช่นนั้นเป็นของต้องริบ

ย่อยาว

ได้ความว่าจำเลยได้จ้างผู้มีชื่อตัดฟันชักลากไม้สักรวม ๖๘ ต้นโดยมิได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน ๆ จับไม้นี้ได้เมื่อจำเลยได้เลื่อยออกเป็นไม้เหลี่ยมแล้ว
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาต้องกันให้ปรับจำเลยตามพ.ร.บ.ป้องกันการลักลอบชักลากไม้สักที่ยังมิได้เสียภาษีค่าตอ ร.ศ.๑๑๘ ข้อ ๓,๕ และให้ริบไม้ของกลาง
จำเลยฎีกาคัดค้านในข้อกฎหมายว่าไม้สักของกลางเป็นไม้เหลี่ยมไม่มีดวงตราของเจ้าพนักงานนั้น จำเลยจะมีผิดหรือไม่และไม้นั้นควรริบหรือไม่ และการที่ศาลล่างตัดสินว่าเป็นหน้าที่ของจำเลยจะนำสืบว่าไม้ของกลางไม่ใช่ไม้ที่จำเลยจ้างให้คนตัดฟันนั้นมิชอบ
ศาลฎีกาตัดสินว่าศาลล่างฟัองข้อเท็จจริงว่าไม้ของกลางเป็นไม้ที่จำเลยจ้างเขาตัดฟันมา ฉะนั้นเมื่อจำเลยรับว่าผู้รับจ้างได้ส่งไม้ให้จำเลย แต่ต่อสู้ว่าไม้เหลี่ยมที่จับได้นั้นจำเลยได้ซื้อมาจากผู้มีชื่อก็เป็นหน้าที่ของจำเลยจะต้องนำสืบ ข้อที่จำเลยคัดค้านว่าไม่ควรริบไม้ของกลาง เพราะเมื่อเวลาจับไม้ได้นั้น เห็นว่า พ.ร.บ.ห้ามมิให้ผู้ใดชักลากไม้สักออกจากป่าโดยเจ้าพนักงานยังมิได้ตีตราและเมื่อเจ้าพนักงานตรวจพบไม้ที่มิได้ตีตราก็ให้ริบได้ การที่จำเลยได้รับไม้โดยมิรับอนุญาตและไม่ได้ตีตรา และริบเลื่อยไม้นั้นเป็นไม้เหลี่ยมไม่เป็นเหตุทำให้ + จึงพิพากษายืนตามให้ยกฎีกาจำเลย

Share