คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2250/2544

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ร่วมนำสินค้าไปฝากขายที่ห้างสรรพสินค้า เมื่อสินค้าไปถึงห้างสรรพสินค้าพนักงานขายของโจทก์ร่วมที่ประจำอยู่ที่ห้างสรรพสินค้า และพนักงานของห้างสรรพสินค้าจะตรวจสอบว่าสินค้าส่งมาตรงตามใบสั่งซื้อสินค้าหรือไม่ เสร็จแล้วจึงนำไปเก็บที่คลังเก็บสินค้ากลางของห้างสรรพสินค้า พนักงานขายของโจทก์ร่วมจะเบิกสินค้าซึ่งโจทก์ร่วมยังคงเป็นเจ้าของอยู่จากคลังสินค้ามาขายแก่ลูกค้า จำเลยซึ่งเป็นผู้ขายและพนักงานของโจทก์ร่วมเบียดบังเอาเงินค่าสินค้าของโจทก์ร่วมไปเป็นประโยชน์ส่วนตัวโดยทุจริต จึงมีความผิดฐานยักยอกทรัพย์ตาม ป.อ. มาตรา 352 และการกระทำของจำเลยเป็นเหตุให้โจทก์ร่วมได้รับความเสียหายไม่ได้รับเงินค่าสินค้าดังกล่าว โจทก์ร่วมจึงเป็นผู้เสียหายตาม ป.วิ.อ. มาตรา 2 (4) มีอำนาจร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนให้ดำเนินคดีแก่จำเลยได้ตาม ป.วิ.อ. มาตรา 2 (7)

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตาม ป.อ. มาตรา 352, 83 และให้จำเลยคืนเสื้อผ้าสำเร็จรูปจำนวน 88 ตัว หรือใช้เงินจำนวน 161,970 บาท แก่ผู้เสียหาย
จำเลยให้การปฏิเสธ
ระหว่างพิจารณา บริษัทฟายน์สติช จำกัด ผู้เสียหายยื่นคำร้องขอเข้าร่วมเป็นโจทก์ ศาลชั้นต้นอนุญาต
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตาม ป.อ. มาตรา 352, 83 จำคุก 1 ปี 4 เดือน ให้จำเลยคืนเสื้อผ้าสำเร็จรูปจำนวน 88 ตัว หากคืนไม่ได้ให้ใช้ราคา 161,970 บาท แก่โจทก์ร่วม
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้ยกฟ้อง
โจทก์และโจทก์ร่วมฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของโจทก์และโจทก์ร่วมว่า โจทก์ร่วมเป็นผู้เสียหายมีอำนาจร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนให้ดำเนินคดีแก่จำเลยหรือไม่ เห็นว่า โจทก์ร่วมเป็นนิติบุคคลประเภทบริษัทจำกัดมีวัตถุประสงค์ในการผลิตและจำหน่ายเสื้อผ้าสตรียี่ห้ออินทริค นำสินค้าดังกล่าวไปฝากขายตามห้างสรรพสินค้าทั่วประเทศ เมื่อส่งสินค้าไปถึงห้างสรรพสินค้า พนักงานขายของโจทก์ร่วมที่ประจำห้างสรรพสินค้ากับพนักงานของห้างสรรพสินค้าจะทำการตรวจสอบว่าสินค้าส่งมาตรงตามใบสั่งซื้อหรือไม่ เสร็จแล้วนำไปเก็บที่คลังสินค้ากลางของห้างสรรพสินค้าพนักงานขายของโจทก์ร่วมจะเบิกสินค้าจากคลังสินค้ากลางมาขายให้แก่ลูกค้า เมื่อขายสินค้าแล้วห้างสรรพสินค้าใช้หักเงินส่วนหนึ่งจากยอดขายสินค้าดังกล่าวเป็นผลประโยชน์ของห้างสรรพสินค้า แล้วโอนเงินส่วนที่เหลือเข้าบัญชีของโจทก์ร่วม แสดงว่าโจทก์ร่วมจะได้รับเงินค่าสินค้าเมื่อขายสินค้าให้แก่ลูกค้าได้แล้ว การที่โจทก์ร่วมส่งสินค้ามาฝากขายที่ห้างสรรพสินค้าแล้วจำเลยซึ่งเป็นผู้ขายและเป็นพนักงานของโจทก์ร่วมเบียดบังเอาเงินค่าสินค้าของโจทก์ร่วมไปเป็นประโยชน์ส่วนตัวโดยทุจริต อันเป็นความผิดฐานยักยอกทรัพย์ตาม ป.อ. มาตรา 352 ซึ่งการกระทำของจำเลยเป็นเหตุให้โจทก์ร่วมได้รับความเสียหายไม่ได้รับเงินค่าสินค้าดังกล่าว โจทก์ร่วมจึงเป็นผู้เสียหายตาม ป.วิ.อ. มาตรา 2 (4) มีอำนาจร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนให้ดำเนินคดีแก่จำเลยได้ตาม ป.วิ.อ. มาตรา 2 (7)
พิพากษากลับว่า จำเลยมีความผิดตาม ป.อ. มาตรา 352 วรรคหนึ่ง จำคุก 1 ปี 4 เดือน ให้จำเลยใช้ราคา 161,970 บาท แก่โจทก์ร่วม

Share