แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยกระทำผิด+กรรมต่างวาระกันเมื่อทางพิจารณาได้ความเช่นนั้นศาลก็ลงโทษจำเลยเรียงกระทงความผิดได้ เจ้าพนักงานปลอมหนังสือซึ่งมิได้อยู่ในหน้าที่ของตนจะต้องทำตามตำแหน่งไม่ผิดตาม ม.229 เอาหนังสือปลอมที่ตนเป็นผู้ทำขึ้นเองไปใช้ไม่มีผิดตาม ม.227 ประมวลวิธีพิจารณาอาญา ม.192 วรรค 4 ข้อเท็จจริงที่ได้พรรณามาในฟ้องและโจทก์สืบสมแม้จะอ้างบทมาตราผิดศาลก็ลงโทษตามบทมาตราที่ถูกต้องได้
ย่อยาว
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษจำเลยฐานปลอมหนังสือและฐานยักยอกรวม ๔ กะทงจำคุกกะทงละ ๓ ปี รวม ๑๒ ปี ลดโทษกึ่งหนึ่งคงเหลือ ๖ ปี
โจทก์จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาตัดสินฎีกาจำเลยก่อนว่าที่ว่าการปลอมใบสั่งและใบสำคัญนั้นศาลไม่ควรลดโทษจำเลยเรียงกะทงนั้น เห็นว่าฟ้องโจทก์ได้กล่าวว่าจำเลยกระทำผิดต่างกรรมต่างวาระกัน ศาลจะลงโทษเรียงกะทงก็ได้ ที่เถียงว่าจะลงโทษตาม ม.๒๒๔ ไม่ได้เพราะโจทก์ไม่ได้อ้างในฟ้องนั้นเห็นว่าโจทก์ได้พรรณามาในฟ้องและสืบสม แม้จะอ้างบทมาตราผิดก็ลงโทษได้ตามม.๑๙๒ วรรค ๔ แห่งประมวลวิธีพิจารณาอาญา ฎีกาของโจทก์ที่ขอให้ลงโทษจำเลยตาม ม.๒๒+ นั้นเห็นว่า ใบสั่งและใบสำคัญไม่ได้อยู่ในหน้าที่ของจำเลยเป็นผู้ทำตามตำแหน่งจึงไม่เข้ามาตรานั้น ส่วนที่ขอให้ลงโทษจำเลยตาม ม.๒๒๗ นั้นเมื่อปรากฎว่าใบสั่ง ใบสำคัญ จำเลยทำปลอมขึ้นเองจึงไม่ใช่หนังสือที่ผู้อื่นเขาปลอมตามนัยแห่ง ม.๒๒๗ นั้น พิพากษาให้ยกฎีกาโจทก์จำเลยเสีย ยืนตามศาลอุทธรณ์