แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์กู้เงินจำเลยเอาที่นาให้จำเลยทำกินต่างดอกเบี้ย และเขียนสัญญามีความว่า “ข้าพเจ้ามีความเต็มใจขายให้นางบุญเรืองเป็นราคา 50 บาท ภายในกำหนด 6 เดือนตั้งแต่วันทำสัญญานี้เป็นต้นไป ต่อไปเมื่อหน้า เมื่อพ้นกำหนด 3 ปีแล้ว ถ้าข้าพเจ้าและบุตรหลานคนหนึ่งคนใดจะไถ่ถอนคิดดอกเบี้ยให้นางบุญเรืองตามราคา เงิน 50 บาท” นั้น ข้อสัญญาที่ให้ไถ่คืนเป็นในทำนองไถ่คืนเช่นสัญญาขายฝาก ถ้าไม่ทำให้ถูกต้องตาม ป.ม.แพ่ง ฯ เรื่องขายฝากแล้ว โจทก์จะฟ้องเอาที่ดินคืน โดยอาศัยข้อสัญญานี้หาได้ไม่.
ประชุมใหญ่ครั้งที่ /92
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า นางทองพรม โจทก์ได้กู้เงินจำเลย ๕๐ บาท แล้วเอาที่นาให้ทำต่างดอกเบี้ยแปลงหนึ่ง ในสัญญามีใจความว่า “ข้าพเจ้ามีความเต็มใจขายให้นางบุญเรืองเป็นราคา ๕๐ บาท ภายในกำหนด ๖ เดือนตั้งแต่วันทำหนังสือสัญญากันนี้เป็นต้นไป ต่อเมื่อหน้าเมื่อพ้นกำหนด ๓ ปีไปแล้ว ถ้าข้าพเจ้าและบุตรหลานคนหนึ่งคนใด จะไถ่ถอน จะคิดดอกเบี้ยให้นางบุญเรืองตามราคาเงิน ๕๐ บาท” บัดนี้ นางทองพรมขอชำระเงินกู้และดอกเบี้ย จำเลยไม่ยอมรับเงิน และไม่คืนนา จึงขอให้บังคับ จำเลยให้การว่านาที่พิพาท นางทองพรมขายขาด จำเลยได้ครอบครองถือสิทธิเป็นเจ้าของมา ๑๖ ปี จำเลยได้กรรมสิทธิตาม ป.ม.แพ่งฯ มาตรา ๑๓๘๒ โดยบริบูรณ์แล้ว ศาลชั้นต้นเห็นว่า โจทก์หมดสิทธิไถ่คืนแล้ว พิพากษายกฟ้อง ศาลอุทธรณ์เห็นว่า จำเลยไม่ได้กรรมสิทธิฐานปกครองปรปักษ์ พิพากษากลับ ให้โจทก์ชนะคดี
จำเลยฎีกา,
ศาลฎีกาได้วินิจฉัยโดยที่ประชุมใหญ่ว่า ข้อสัญญาในคดีนี้เป็นทำนองไถ่ถอนคืน เช่น สัญญาขายฝาก ฉะนั้น เมื่อไม่ได้ทำสัญญาขายฝากโดยถูกต้องก็เป็นโมฆะ เพราะการขายทรัพย์ไปโดยให้ไถ่ถอนนี้ ป.ม.แพ่งฯ มีบทบัญญัติเรื่องขายฝากไว้ แสดงให้เห็นว่า จะทำโดยประการอื่นมิได้ ฉะนั้นถ้าไม่ทำให้ถูกต้องเป็นสัญญาขายฝาก ข้อสัญญานั้นก็ขัดกับกฎหมาย ข้อสัญญาในคดีนี้ต้องด้วยลักษณะดังกล่าวแล้ว โจทก์จะเอาที่ดินคืนโดยอาศัยข้อสัญญานี้หาได้ไม่.
พิพากษากลับให้ยกฟ้อง.