แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ฟ้องของโจทก์กล่าวว่า จำเลยบังอาจใช้กรรไกรลักตัดสร้อยคอของ พ. ไป ดังนี้ ย่อมเป็นที่เข้าใจว่า จำเลยลักตัดสร้อยคอของ พ.ไป โดยไม่ได้รับอนุญาต จึงเป็นฟ้องที่สมบูรณ์.
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยบังอาจใช้กรรไกรตัดสร้อยคอซึ่งสรวมคอเด็กหญิงอันเป็นบุตรของนางเพียนซึ่งเป็นทรัพย์ของนางเพียน ขอให้ลงโทษ จำเลยให้การปฏิเสธ ศาลชั้นต้นเห็นว่า ฟ้องของโจทก์เคลือบคลุม พิพากษายกฟ้อง ศาลอุทธรณ์เห็นว่า ฟ้องไม่เคลือบคลุม พิพากษายกคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นพิจารณาพิพากษาใหม่
จำเลยฎีกา,
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ฟ้องของโจทก์กล่าวว่าจำเลยนี้บังอาจใช้กรรไกรลักตัดสร้อยของนางเพียนไป คำว่าบังอาจเป็นคำหมายความว่าจำเลยลักเอาไปโดยฝืนใจนางเพียน ๆ ไม่ได้ยินยอมอนุญาตให้จำเลยเอาไปนั้นเอง ฟ้องของโจทก์จึงมีถ้อยคำให้เข้าใจได้ว่าจำเลยลักตัดสายสร้อยของนางเพียนโดยไม่ได้รับอนุญาต ฟ้องของโจทก์เป็นฟ้องที่สมบูรณ์
พิพากษายืน.