คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1464/2496

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยว่าจ้างโจทก์เป็นทนายความว่าคดีให้จำเลย ครั้นคดีอยู่ในระหว่างฎีกา จำเลยขอถอนโจทก์จากการเป็นทนายโจทก์ไม่คัดค้าน ดังนี้ ไม่มีทางที่จะทำให้จำเลยหลุดพ้นจากความผูกพันในอันจะต้องชำระค่าจ้างว่าความให้แก่โจทก์

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องอ้างว่า จำเลยได้จ้างโจทก์เป็นทนายความฟ้องคดีความ ตกลงให้ค่าจ้างว่าความแก่โจทก์ เมื่อชนะคดีถึงที่สุดเป็นเงิน ๑๕,๐๐๐ บาทกับเงินค่าทนายความที่ศาลพิพากษาให้เท่าใด ยอมให้เป็นค่าจ้างเพิ่มแก่โจทก์ด้วย บัดนี้ศาลฎีกาพิพากษาให้จำเลยชนะคดีนั้นแล้ว แต่จำเลยบิดพลิ้วไม่ยอมให้ค่าจ้างโจทก์ตามสัญญา จึงขอให้ศาลบังคับ
จำเลยให้การว่า ได้ว่าจ้างโจทก์ ๒,๐๐๐ บาท ได้ชำระให้ไปบ้างแล้ว คงค้างอยู่ ๒๐๐ บาทเท่านั้น อนึ่งเมื่อคดีเรื่องนี้อยู่ในระหว่างฎีกา จำเลยได้ยื่นคำร้องขอถอนโจทก์ จากการเป็นทนาย โจทก์ไม่คัดค้านประการใด จึงต้องถือว่าสัญญาจ้างระหว่างโจทก์กับจำเลยสิ้นสุดลงแล้ว โจทก์กับจำเลยจึงไม่มีภาระผูกพันกันอีก
ศาลชั้นต้นเห็นว่า การถอนทนายเป็นเพียงจำเลยไม่เต็มใจให้โจทก์เป็นทนายจำเลยต่อไป มิใช่เป็นเรื่องเลิกสัญญาจ้างค่าความ จำเลยยังต้องมีความผูกพันในสัญญาจ้างว่าความกับโจทก์อยู่ จึงพิพากษาให้จำเลยชำระเงินแก่โจทก์ตามฟ้อง
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า ตามรูปเรื่องที่จำเลยถอนโจทก์ออกจากทนายความในคดีเรื่องก่อนนั้น ไม่มีทางที่จะทำให้จำเลยหลุดพ้นจากความผูกพันในอันจะต้องชำระค่าจ้างว่าความแก่โจทก์
จึงพิพากษายืน

Share