คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 817/2509

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

คดีที่คู่ความตกลงท้ากันให้สืบพยาน 2 ปากถือเป็นข้อแพ้ชนะ โดยให้ศาลวินิจฉัยจากพยาน 2 ปากนี้ว่าเป็นจริงดังที่โจทก์ฟ้องหรือไม่ ถ้าได้ความทางวินิจฉัยของศาลว่าจริง จำเลยยอมแพ้ ถ้าไม่ได้ความดังกล่าว โจทก์ยอมแพ้ ดังนี้ เมื่อพยาน 2 ปากให้การสมฝ่ายโจทก์ จำเลยจะขอให้นำเอกสารอื่นมาวินิจฉัยหักล้างมิได้ เพราะเป็นพยานนอกเหนือจากที่ตกลงกัน.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องเรียกค่านายหน้าจากจำเลย จำเลยปฏิเสธว่ามิได้ตกลงให้โจทก์เป็นนายหน้า
ก่อนสืบพยานโจทก์ คู่ความตกลงกันขอให้สืบพยานเพียง ๒ ปากโดยมีประเด็นท้ากันข้อเดียวถือเป็นแพ้ชนะ โดยให้ศาลวินิจฉัยจากคำเบิกความของพยาน ๒ ปากนี้ว่าโจทก์ได้ชี้ช่องหรือจัดการให้มีการซื้อขายจริงหรือไม่ ถ้าได้ความทางวินิจฉัยของศาลว่าจริง ฝ่ายจำเลยยอมแพ้ ถ้าไม่ได้ความดังกล่าว โจทก์ยอมแพ้
เมื่อสืบพยาน ๒ ปากแล้ว ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่าพยานเบิกความสมโจทก์ จึงพิพากษาให้จำเลยชำระค่านายหน้าแก่โจทก์
จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีฟังได้จากคำพยานที่คู่ความท้ากันว่าผู้ซื้อได้ซื้อโรงบ่มใบยาสูบจากจำเลยเนื่องจากผลที่โจทก์ได้ชี้ช่องจัดการให้จนเป็นผลสำเร็จ ส่วนที่จำเลยฎีกาว่ามีเอกสารซึ่งผู้ซื้อออกให้ว่าผู้ซื้อได้ซื้อโรงบ่มใบยาสูบ มีผู้อื่นซึ่งไม่ใช่โจทก์เป็นผู้ติดต่อซื้อขายจนเสร็จสิ้นนั้นจะรับวินิจฉัยให้ไม่ได้ เพราะเป็นพยานนอกเหนือจากที่ตกลงกัน
พิพากษายืน.

Share