แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
การกระทำที่เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 145 ต้องได้ความว่า นอกจากได้แสดงตนเป็นเจ้าพนักงานแล้ว ต้องกระทำการเป็นเจ้าพนักงานโดยตนเองมิได้เป็นเจ้าพนักงานที่มีอำนาจกระทำการนั้นด้วย
จำเลยมิได้เป็นตำรวจสันติบาล ได้แสดงตัวเป็นตำรวจสันติบาล ได้ถามถึงเรื่องคนร้าย แล้วจดชื่อลงในสมุดพก โดยจำเลยมิได้มีเจตนาที่จะทำการสืบสวนหาตัวคนร้ายอย่างจริงจัง ดังนี้ การกระทำของจำเลยย่อมไม่ผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 145
ย่อยาว
คดีนี้ โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๑๔๕
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องโจทก์
โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกาเป็นปัญหาข้อกฎหมายว่าการกระทำของจำเลยผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๔๕
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๑๔๕ ต้องได้ความว่า นอกจากจำเลยได้แสดงตนเป็นเจ้าพนักงานแล้ว จำเลยต้องกระทำการเป็นเจ้าพนักงาน โดยตนเองมิได้เป็นเจ้าพนักงานที่มีอำนาจกระทำการนั้นด้วยเมื่อข้อเท็จจริงฟังได้เพียงว่า ในขณะที่จำเลยแสดงตัวเป็นตำรวจสันติบาลนั้นจำเลยได้สอบถามนายเสงี่ยมถึงเรื่องคนร้ายและจดชื่อคนร้ายลงในสมุดของจำเลย โดยมิได้มีเจตนาจะทำการสืบสวนหาตัวคนร้ายจริงจัง จะถือว่าจำเลยได้กระทำการสืบสวนข้อเท็จจริงเพื่อเสาะแสวงหาผู้กระทำผิดกฎหมายดังฎีกาโจทกืไม่ได้ เพราะการกระทำกล่าวเป็นการกระทำเพียงเพื่ออวดอ้างให้นายเสงี่ยมเชื่อว่าตนเป็นตำรวจสันติบาลเท่านั้น หาใช่เป็นการกระทำเป็นเจ้าพนักงานแต่อย่างใดไม่ ไม่เป็นผิดตามมาตรา ๑๔๕
พิพากษายืน