แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ที่ดินมฤดกซึ่งเจ้ามฤดกเป็นลูกหนี้สหกรณ์ได้โอนใส่ชื่อสหกรณ์เป็นเจ้าของเพื่อประกันหนี้นั้นต้องจัดการชำระหนี้ เสียก่อน เมื่อได้ที่ดินมาแล้วจึงแบ่งปันกันได้
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอแบ่งมฤดกขุน ร. ในฐานะเป็นหลานรับมฤดกแทนที่ ช. บิดาซึ่งเป็นบุตรขุน ร. คดีมีปัญหาฉะเพาะที่ดินหมายเลข ๑๑,๑๓,๑๔,๑๕ ซึ่งขุน ร. ได้โอนให้แก่สหกรณ์ไปแล้วได้ความว่า ตามระเบียบของสหกรณ์สมาชิกขอกู้เงินสหกรณ์ต้องเอาที่ดินเป็นประกัน ชั้นเดิมสหกรณ์ใช้วิธีโอนโฉนดที่ดินของสมาชิกผู้กู้เงินสหกรณ์มาเป็นของสหกรณ์ชั่วคราว เมื่อใช้เงินแล้วจึงโอนที่ดินกลับคืน แต่เวลานี้ใช้วิธีทำเป็นจำนอง โฉนด ๔ ฉะบับ ได้โอนใส่ชื่อสหกรณ์ตามวิธีดังกล่าว
ศาลชั้นต้นเห็นว่า ที่ดินตามโฉนด ๔ ฉะบับนั้น ขุน ร. ได้โอนให้แก่สหกรณ์บ้านช่องไปแล้ว ให้ยกฟ้อง ส่วนทรัพย์มฤดกอื่นให้ประมูลหรือขายทอดตลาด หักค่าธรรมเนียมค่าทนาย ค่าจัดการศพและปลงศพผู้ตาย เหลือใช้หนี้สหกรณ์และดอกเบี้ยเหลือเท่าใดแบ่งแก่ทายาทเป็น ๕ ส่วนเท่า ๆ กัน
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้เอาที่ดินโฉนด ๔ ฉะบับนั้นออกประมูลระหว่างทายาทไม่ตกลงให้ขายทอดตลาดเอาเงินรวมเข้ากับทรัพย์มฤดกชำระหนี้สหกรณ์ให้จัดเข้า ในอันดับ ๒ รองค่าธรรมเนียมทนาย นอกนั้นยืม
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า ในเบื้องต้นต้องถือว่าที่ดิน ๔ โฉนดนี้เป็นของสหกรณ์มิได้เข้ามาเป็นฝ่ายในคดีนี้ จะบังคับให้แบ่งที่ดิน ๔ แปลงไปก่อนนั้นไม่เห็นพ้องด้วย เมื่อได้ที่ดินคืนมาแล้วจึงแบ่งได้
พิพากษาแก้ฉะเพาะที่ดิน ๔ แปลงนี้ให้จัดการชำระหนี้เสียก่อนเมื่อได้ที่ดินมาแล้วจึงให้แบ่งกัน ถ้าไม่ตกลงให้ประมูลหรือขายทอดตลาดแบ่งกันภายหลัง นอกนั้นยืน