แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
เจ้าของพินัยกรรม์ผู้ให้ระบุเงื่อนไขไว้ในพินัยกรรม์ว่าให้มารดาของผู้รับเซ็นสัญญาประนีประนอมยอมความตาม สัญญากลัดต่อท้ายพินัยกรรม์ภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ทำพินัยกรรม์ฉะบับนั้น แม้มารดาของผู้รับและผู้รับจะไม่ทราบเงื่อนไขนี้ก็ตาม เมื่อปรากฎว่ามารดาของผู้รับมิได้เซ็นสัญญาประนีประนอมยอมความตามที่กล่าวไว้ในพินัยกรรม์แล้ว ผู้รับก็ไม่มีสิทธิที่จะได้รับทรัพย์ตามที่พินัยกรรม์กำหนดไว้
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ศาลพิพากษาว่า พินัยกรรม์ของคุณหญิงประชุม มนตรีสุริยวงษ์ ซึ่งทำเมื่อวันที่ ๓๐ พฤศจิกายน ๒๔๘๒ ยกทรัพย์ให้โจทก์ตามสำเนานั้นเป็นการสมบูรณ์ แต่ในข้อ ๕ แห่งพินัยกรรม์นั้นมีเงื่อนไขบังคับไว้เฉพาะทรัพย์ส่วนที่ทำพินัยกรรม์ยกให้แก่โจทก์ทั้งสองว่า นางพุก บุนนาค มารดาโจทก์ทำสัญญาประณีประนอมยอมความตามสัญญาที่ได้ผนึกกลัดต่อท้ายพินัยกรรม์ต่อตัวคุณหญิงและกองมรดก พระยามนตรีภายใน ๑๕ วัน นับแต่วันทำพินัยกรรม์ หากนางพุกไม่ยอมทำสัญญาประณีประนอมดังกล่าวแล้วโจทก์ทั้งสองก็จะถูกตัดมิให้ได้รับมรดกตามพินัยกรรม์นั้น แต่นับจากวันที่คุณหญิงประชุมได้ทำพินัยกรรมฉะบับนี้กล่าวจนถึงวันที่คุณหญิงวายชนม์ คุณหญิงไม่เคยส่งสัญญาหรือแจ้งข้อความแห่งสัญญาท้ายพินัยกรรมให้แก่นางพุกทราบเพื่อปฏิบัติเลย จึงจะถือว่านางพุกผิดนัดไม่ได้ พินัยกรรม์เป็นอันสมบูรณ์ปราศจากเงื่อนไข
จำเลยต่อสู้ว่านางพุก บุนนาคทราบเงื่อนไขแล้ว แต่ไม่ยอมเซ็นสัญญาประณีประนอม และต่อสู้ว่าคดีขาดอายุความ
ศาลแพ่งฟังข้อเท็จจริงว่า นางพุกทราบเงื่อนไขแล้วแต่ไม่ยอมเซ็นสัญญาประณีประนอมยอมความเอง โจทก์จึงถูกเงื่อนไขกำหนดตัดมิให้ได้ทรัพย์ตามพินัยกรรม พิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์, ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่าเมื่อเงื่อนไขในพินัยกรรม์มีดังกล่าวแล้ว และปรากฎว่านางพุก บุนนาคมิได้เช็นสัญญาประณีประนอมยอมความตามที่กล่าวไว้ในพินัยกรรม์ จะวินิจฉัยความให้เป็นไปอย่างอื่นย่อมผิดจากความประสงค์ของผู้ทำพินัยกรรม์
ข้อที่โจทก์ฎีกาว่าเพราะนางพุก บุนนาคไม่ทราบ จึงมิได้ปฏิบัติตามเงื่อนไขในพินัยกรรม์นั้น ความข้อนี้ศาลชั้นต้นได้กล่าวว่านางพุกทราบดีแล้ว เพราะคดีนี้มีปรากฎอยู่และฝ่ายจำเลยก็ให้การว่านางพุกทราบความข้อนี้ อย่างไรก็ดีกรณีไม่ใช่การชำระหนี้อันจะยก ป.ม.แพ่งฯมาตรา ๒๐๕ มาปรับดังข้อฎีกาโจทก์ หากเป็นเรื่องแสดงเจตนาให้ฝ่ายเดียว การที่เจ้าของพินัยกรรม์ผู้ให้ระบุเงื่อนไขไว้เช่นนี้ ผู้รับจะรู้หรือไม่ไม่ทำให้การวินิจฉัยเปลี่ยนแปลงเพราะเป็นความประสงค์ของผู้ทำพินัยกรรม์เช่นนั้น
จึงพิพากษายืน