คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 236/2509

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ทำสัญญาเช่าที่ดินจากจำเลยเพื่อปลูกสร้างโรงเรือนทำการค้าโดยการไม่มีกำหนดเวลา แต่มีข้อกำหนดว่า หากจำเลยต้องการที่เช่าคืน จะต้องบอกกล่าวเป็นลายลักษณ์อักษรให้โจทก์ทราบล่วงหน้า 1 ปี และจำเลยจะต้องรับซื้อโรงเรือนหรือสิ่งปลูกสร้างซึ่งโจทก์ได้ปลูกสร้างลงไว้ในที่เช่า มิฉะนั้นจะต้องยอมให้โจทก์เช่าที่ดินต่อไป ต่อมาจำเลยได้บอกเลิกการเช่า โจทก์เรียกร้องให้จำเลยซื้อโรงเรือนจากโจทก์ในราคาสูงเกินกว่าราคาตลาดมาก ดังนี้ ส่อแสดงให้เห็นเจตนาของโจทก์ว่าแกล้งเล่นแง่ตั้งราคาสูง จนจำเลยไม่อาจตกลงรับซื้อได้อันจะทำให้จำเลยใช้สิทธิเลิกสัญญาเช่ากับโจทก์ไม่ได้ ฉะนั้น ที่โจทก์อ้างว่าจำเลยที่ 1 ไม่ยอมรับซื้อเรือนของโจทก์ในราคาตลาด เป็นการผิดสัญญาจึงฟังไม่ได้.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าโจทก์ทำสัญญาเช่าที่ดินจากจำเลยที่ ๑ เพื่อปลูกสร้างโรงเรือนทำการค้าโดยไม่มีกำหนดเวลา แต่มีข้อกำหนดว่า หากจำเลยที่ ๑ ต้องการที่เช่าคืน จะต้องบอกกล่าวเป็นลายลักษณ์อักษรให้โจทก์ทราบล่วงหน้า ๑ ปี และจำเลยจะต้องรับซื้อโรงเรือนหรือสิ่งปลูกสร้างซึ่งโจทก์ได้ปลูกสร้างลงไว้ในที่เช่า มิฉะนั้นจะต้องยอมให้โจทก์เช่าที่ดินต่อไปต่อมาจำเลยขอให้โจทก์ออกจากที่เช่า โจทก์ให้จำเลยรับซื้อโรงเรือนซึ่งปลูกในที่เช่าตามสัญญา จำเลยไม่ยอมซื้อ โจทก์จึงไม่ยอมคืนที่เช่าให้จำเลย ต่อมาจำเลยที่ ๒ ด้วยความรู้เห็นเป็นใจหรือยินยอมของจำเลยที่ ๑ ได้ปลูกต้นไม้ โรงเรือนและทำรั้วปิดกั้นล้อมที่เช่า โจทก์ห้ามปรามจำเลยไม่เชื่อฟัง จึงขอให้ศาลบังคับจำเลยให้รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างออกไปหรือชำระค่าโรงเรือนซึ่งโจทก์ปลูกไว้
จำเลยทั้งสองต่อสู้ว่า สัญญาเช่าระหว่างโจทก์กับจำเลยที่ ๑ ระงับไปแล้วจำเลยที่ ๑ ยินยอมซื้อสิ่งก่อสร้างของโจทก์ตามราคาท้องตลาด แต่โจทก์ไม่ขาย โดยเรียกราคาสูงกว่าราคาท้องตลาดมาก จำเลยที่ ๒ ปลูกพุดซาในที่เช่าหลังจากบอกเลิกการเช่าแล้ว ๑ ปี จำเลยที่ ๒ ทำรั้วในที่ดินของจำเลยที่ ๑ โจทก์ไม่เสียหาย
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาว่า จำเลยที่ ๑ ได้บอกเลิกสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษรและยอมรับซื้อเรือนของโจทก์ในราคาท้องตลาดแล้ว โจทก์ไม่ยอมขาย จะเอาราคาสูงมากเกินควรเป็นความผิดของโจทก์เอง สัญญาเช่าระงับแล้ว ให้ยกฟ้องโจทก์
โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า จำเลยที่ ๑ ได้ส่งหนังสือบอกเลิกการเช่าแก่โจทก์แล้ว แต่โจทก์ไม่ยอมรับ จึงเป็นความผิดของโจทก์เอง โจทก์เรียกร้องให้จำเลยซื้อโรงเรือนจากโจทก์ในราคาที่สูงเกินกว่าราคาตลาดมากมาย ส่อแสดงให้เห็นเจตนาของโจทก์ว่า แกล้งเล่นแง่ตั้งราคาสูงจนจำเลยไม่อาจตกลงรับซื้อได้ อันจะทำให้จำเลยใช้สิทธิเลิกสัญญาเช่ากับโจทก์ไม่ได้ ฉะนั้น ที่โจทก์อ้างว่าจำเลยที่ ๑ ไม่ยอมรับซื้อเรือนของโจทก์ในราคาตลาดเป็นการผิดสัญญาจึงฟังไม่ได้
พิพากษายืน ยกฎีกาโจทก์.

Share