คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 938/2496

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ผู้ตายจะเอาปืนยิงจำเลย จำเลยจึงเข้าแย่งปืน ๆได้ลั่นขึ้น 1 นัด แล้วผู้ตายเอาลูกกระสุนบรรจุปืนและจะยิงจำเลยอีก จำเลยจึงแทงเอาปืนหลุดจากมือผู้ตายแล้ว ผู้ตายยังจะแย่งเอาปืนอีก จำเลยจึงต้องแทงผู้ตายอีกหลายที และเอาปืน ยิงผู้ตายล้มลงขาดใจตาย ดังนี้ ไม่เป็นการเกินสมควรแก่เหตุ เพราะเมื่อผู้ตายยังพยายามจะแย่งเอาปืนจากจำเลย แล้ว อันตรายก็ยังมีอยู่ จำเลยจะหยุดยั้งเสียไม่ได้เพราะเป็นเวลาฉุกเฉิน การกระทำของจำเลยจึงได้รับการยกเว้น โทษตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 50.

ย่อยาว

คดีนี้ โจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยฆ่านายมุมตายโดยเจตนา ขอให้ลงโทษ
จำเลยปฏิเสธอ้างฐานที่อยู่
ศาลชั้นต้นเห็นว่าพยานหลักฐานไม่พอฟังลงโทษจำเลย จึงพิพากษายกฟ้อง
อัยการและโจทก์ร่วมอุทธรณ์,
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้จำคุกจำเลยตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา ๒๔๙ มีกำหนด ๑๕ ปี ลดตามมาตรา ๕๙ เสีย ๑ ใน ๓ คงจำคุก ๑๐ ปี มีดของกลางริบ
โจทก์ร่วมและจำเลยฎีกา
ศาลฎีกาประชุมปรึกษาแล้ว ตามข้อเท็จจริงได้ความว่า นายมุมจะเอาปืนยิงจำเลยๆ จึงเข้าแย่งปืนนายมุม ปืนได้ลั่นไป แล้วนายมุมเอาลุกกระสุนบรรจุปืน และจะยิงจำเลยอีก จำเลยจึงแทงเอา ปืนหลุดจากมือนายมุม แล้วนายมุมยังจะแย่ง เอาปืนอีก จำเลยจึงต้องแทนนายมุมอีกหลายที และเอาปืนยิงนายมุมล้มลงขาดใจตาย การกระทำของจำเลยดังกล่าว ศาลฎีกาเห็นว่าไม่เป็นการเกินสมควรแก่เหตุ เพราะเมื่อนายมุมยังพยายามจะแย่งปืนไปจากจำเลยแล้ว อันตรายก็ ยังมีอยู่จำเลยจะหยุดยั้งเสียไม่ได้ เพราะเป็นเวลาฉุกเฉินการกระทำของจำเลยจึงได้รับความยกเว้นโทษตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา ๕๐.
จึงพิพากษากลับคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ให้ยกฟ้องโจทก์ ปล่อยจำเลย

Share