คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 840/2496

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยสพายปืนติดตามกระบือที่หาย พบผู้ตายกับพวกกำลังเล่นการพะนันกันอยู่ พวกเล่นการพะนันเข้าใจว่า จำเลยเป็นตำรวจจึงพากันวิ่งหนี แต่ผู้ตายกับพวกบางคนไม่หนี จึงทราบว่าจำเลยไม่ใช่ตำรวจ ผู้ตายไม่พอใจจึงเดิน เข้าไปหา จำเลยเกรงว่าจะเข้ามาแย่งปืน จึงร้องว่า “อย่าเข้ามา เข้ามาจะยิง” ผู้ตายก็กระโดด คว้าปากกระบอกปืนจำเลย พวกผู้ตายจับปืนจำเลยช่วยกันดึง และผู้ตายชักมีดออกขู่ให้จำเลยจำเลยปล่อยปืน จำเลยไม่ยอมปล่อยปืนและกระชากปืนโดยแรง ปืนไม่หลุดแต่จำเลยล้ม พวกจำเลยทับจำเลย ปืนได้ลั่นถูกผู้ตาย, ตายดังนี้ แม้การที่ปืนลั่นจะเป็นโดยจำเลยยิง การกระทำของจำเลยก็เป็นการป้องกันพอสมควรแก่เหตุ./

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องหาว่า จำเลยฆ่าคนตายโดยเจตนา ขอให้ลงโทษ
จำเลยภาคเสธว่า กระทำโดยป้องกันตัว.
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์,
ศาลอุทธรณืเห็นว่า จำเลยป้องกันตัวเกินสมควรแก่เหตุ พิพากษาแก้ว่าจำเลยมีความผิดตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา ๒๔๙, ๕๓ จำคุก ๕ ปี
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาตรวจสำนวนแล้ว ได้ความว่าจำเลยพร้อมด้วยผู้ใหญ่บ้าน และราษฎรหลายคนได้แยกกันตามกระบือของ จำเลย ที่หาย มาถึงที่เกิดเหตุมีพวกที่เล่นการพะนันกันอยู่ วิ่งหนี โดยเข้าใจว่าจำเลยเป็นตำรวจ เพราะสพายปืน นายเมือง และพวกเล่นบางคนไม่หนี จึงทราบว่าจำเลยไม่ใช่ตำรวจ ต่างพากันไม่พอใจ นายเมืองกับพวกอีกคนหนึ่งได้เดินเข้า ไปหาจำเลย ๆ เกรงว่าจะเข้ามาแย่งปืน จึงร้องว่า “อย่าเข้ามา เข้ามาจะยิง” นายเมืองได้โดยคว้าปากกระบอกปืนจำเลย พวกจำเลยจับปืนจำเลยช่วยกันดึง และนายเมืองได้ชักมีดออกขู่ให้จำเลยปล่อยปืน จำเลยไม่ยอมและกระชากปืนโดย แรงปืนไม่หลุด แต่จำเลยล้ม พวกจำเลยล้มทับจำเลย ปืนได้ลั่นไกไปถูกนายเมืองตาย แม้การที่ปืนลั่นจะเป็นโดยจำเลย ยิงผู้ตาย การกระทำของจำเลยก็เป็นการป้องกันพอสมควรแก่เหตุ ฯลฯ
จึงพิพากษาแก้ให้ยกฟ้อง.

Share