แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ศาลชั้นต้นพิพากษาปรับจำเลยเพียงคนละไม่เกินหนึ่งพันบาท และให้ริบของกลางบางส่วน ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นให้คืนของกลางทั้งหมดนั้น การริบของกลางก็จัดเป็นโทษชนิดหนึ่ง จึงต้องห้ามฎีกาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 220
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยได้บังอาจเล่นการพนันบิลเลียดอันเป็นการพนันประเภท ข. อันดับ ๒๓ แห่งพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ.๒๔๗๘ พนันเอาทรัพย์สินกันโดยไม่ได้รับอนุญาต จำเลยที่ ๑ เป็นเจ้าสำนัก ขอให้ลงโทษและริบของกลาง
จำเลยให้การรับสารภาพ
ศาลชั้นต้นพิพากษาปรับและริบของกลางบางส่วน
จำเลยที่ ๑ อุทธรณ์ขอไม่ให้ริบของกลาง
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้คืนของกลางแก่จำเลย
โจทก์ฎีกาว่า ความร้ายรงแห่งการกระทำผิดของจำเลยมีมาก ควรริบของกลางทั้งหมด
ศาลฎีกาเห็นว่า
คดีนี้ ศาลชั้นต้นพิพากษาปรับจำเลยแต่เพียงคนละไม่เกินหนึ่งพันบาท และให้ริบของกลางบางส่วน ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นให้คืนของกลางทั้งหมดแก่จำเลย การริบของกลางก็จัดเป็นโทษชนิดหนึ่ง ฉะนั้น คดีจึงเข้าอยู่ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา ๒๒๐ ซึ่งห้ามมิให้ฎีกาในข้อเท็จจริง
พิพากษาให้ยกฎีกาโจทก์