คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 246/2485

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทย์ฟ้องเรียกเงินตามสัญญากู้จำเลยรับว่าได้ทำสัญญากู้จริงแต่ไม่ได้รับเงิน แต่ก็มิได้กล่าวว่า สัญญากู้นั้นไม่สมบูรณ์เพราะเหตุใดดังนี้ จำเลยจะนำสืบไม่ได้.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยที่ ๑ ทำสัญญากู้เงินโจทก์ไป ๔๐๐ บาท จำเลยที่ ๒ เป็นผู้ค้ำประกัน จำเลยที่ ๑ ให้การว่าได้ทำสัญญากู้จริง แต่ไม่ได้รับเงินไป จำเลยที่ ๒ ให้การว่าเมื่อโจทก์ไม่ได้จ่ายเงินให้จำเลยที่ ๑ รับไปจริงตามสัญญา จำเลยก็ไม่ต้องรับผิดชอบ ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่าตามสัญญาปรากฏชัดว่าได้รับเงินไปถูกต้องแล้ว จำเลยอ้างว่า ไม่ได้รับเงินตามสัญญา แต่ก็มิได้แสดงว่าสัญญากู้ไม่สมบูรณ์หรือเป็นโมฆะเพราะเหตุอะไร จึงพิพากษาให้ใช้เงินโจทก์ตามฟ้อง.
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า เรื่องกู้เงินเป็นเรื่องยืมใช้สิ้นเปลือง ถ้าเป็นจริงว่าไม่มีการส่งมอบเงินที่กู้ สัญญาย่อมไม่สมบูรณ์และจำเลยควรนำสืบเรื่องเอกสารไม่สมบูรณ์ได้พิพากษากลับศาลชั้นต้นให้พิจารณาต่อไป แล้วพิพากษาใหม่.
โจทก์ฎีกา ศาลฎีกาเห็นว่าการที่จำเลยจะนำสืบเถียงว่าไม่มีการรับเงินตามสัญญา เป็นการสืบเปลี่ยนแปลงข้อความในสัญญากู้ ซึ่งทำไม่ได้ จำเลยมิได้แสดงเหตุผลว่าเหตุไรจึงไม่มีการจ่ายเงิน อันจะเห็นผลให้ถือว่าสัญญาไม่สมบูรณ์ เมื่อจำเลยให้การเพียงนี้จึงนำสืบต่อไปไม่ได้ พิพากษากลับศาลอุทธรณ์ยืนตามศาลชั้นต้น.

Share