คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 233/2544

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

แม้จำเลยทั้งสามใช้เครื่องเลื่อยโซ่ยนต์ซึ่งเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพสูงในการทำไม้และแปรรูปไม้ แต่ปรากฏตามรายงานการสืบเสาะและพินิจของพนักงานคุมประพฤติว่า ไม้ยางที่จำเลยทั้งสามร่วมกันแปรรูปนั้นอยู่ในเขตที่ดินของนาย ส. ญาติจำเลยที่ 1 มิได้ขึ้นอยู่ในป่า ทั้งนาย ส. ก็อนุญาตให้จำเลยที่ 1 ตัดไม้ได้ เพียงแต่จำเลยที่ 1 มิได้ดำเนินการขออนุญาตทำไม้และแปรรูปไม้ให้ถูกต้องตามกฎหมายเท่านั้น พฤติการณ์แห่งคดีจึงไม่ร้ายแรงนัก และไม่ปรากฏว่าจำเลยทั้งสามเคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน เห็นสมควรให้โอกาสแก่จำเลยทั้งสามกลับตัวประพฤติตนเป็นพลเมืองดีต่อไป โดยให้รอการลงโทษจำคุกจำเลยไว้ ตาม ป.อ. มาตรา 56 แต่เพื่อให้จำเลยทั้งสามหลาบจำไม่หวนกลับไปกระทำความผิดซ้ำอีก เห็นสมควรลงโทษปรับอีกสถานหนึ่ง
ตามคำฟ้องโจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยมีไม้แปรรูปไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต แต่ศาลชั้นต้นปรับบทลงโทษจำเลยตาม พ.ร.บ. ป่าไม้ ฯ มาตรา 69 ด้วย ซึ่งความผิดดังกล่าวเป็นกรณีการมีไม้ยังมิได้แปรรูปไว้ในครอบครอง จึงเป็นการปรับบทไม่ถูกต้อง ศาลฎีกาแก้ไขให้ถูกต้องได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยทั้งสามตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ.2484 มาตรา 4, 6, 7, 11, 47, 48, 69, 73, 74, 74 ทวิ, 74 จัตวา, 75 พระราชบัญญัติการส่งออกไปนอกและการนำเข้ามาในราชอาณาจักรซึ่งสินค้า พ.ศ.2522 มาตรา 4, 5, 20, 24 พระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ.2469 มาตรา 27, 27 ทวิ พระราชบัญญัติให้บำเหน็จในการปราบปรามผู้กระทำความผิด พ.ศ.2489 มาตรา 4, 5, 6, 7, 8, 9 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 33, 83 ริบของกลาง จ่ายเงินสินบนนำจับแก่ผู้นำจับและรางวัลแก่พนักงานเจ้าหน้าที่ผู้จับกุมตามกฎหมาย
จำเลยทั้งสามให้การรับสารภาพ ส่วนความผิดตามพระราชบัญญัติศุลกากร ฯ รับสารภาพในข้อหารับไว้โดยประการใดซึ่งของอันตนรู้ว่าเป็นของที่นำเข้ามาในราชอาณาจักรโดยหลีกเลี่ยงอากรข้อห้ามหรือข้อจำกัด
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยทั้งสามมีความผิดตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ.2484 มาตรา 4, 6, 7, 11 วรรคหนึ่ง, 48, 69, 73, 74, 74 ทวิ, 74 จัตวา พระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ.2469 มาตรา 27 ทวิ ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 33, 83 เรียงกระทงลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 ฐานทำไม้ จำคุก 1 ปี ฐานแปรรูปไม้ จำคุก 1 ปี ฐานรับไว้ซึ่งของอันตนรู้ว่าเป็นของที่นำเข้ามาในราชอาณาจักรโดยหลีกเลี่ยงอากรข้อห้ามหรือข้อจำกัด จำคุก 3 เดือน รวมจำคุก 3 ปี 3 เดือน จำเลยทั้งสามให้การรับสารภาพ เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุก 1 ปี 7 เดือน 15 วัน ริบของกลาง ให้จำเลยทั้งสามจ่ายเงินสินบนนำจับแก่ผู้นำจับและจ่ายรางวัลแก่พนักงานเจ้าหน้าที่ตามกฎหมาย ส่วนข้อหาลักลอบนำของเข้าหลีกเลี่ยงภาษีอากรให้ยก
จำเลยทั้งสามอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 9 พิพากษายืน
จำเลยทั้งสามฎีกา โดยผู้พิพากษาซึ่งพิจารณาและลงชื่อในคำพิพากษาศาลชั้นต้นอนุญาตให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า แม้จำเลยทั้งสามใช้เครื่องเลื่อยโซ่ยนต์ซึ่งเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพสูงในการทำไม้และแปรรูปไม้ แต่ปรากฏตามรายงานการสืบเสาะและพินิจของพนักงานคุมประพฤติว่า ไม้ยางที่จำเลยทั้งสามร่วมกันแปรรูปนั้นอยู่ในเขตที่ดินของนายสนิท ญาติของจำเลยที่ 1 มิได้ขึ้นอยู่ในป่า ทั้งนายสนิทก็อนุญาตให้จำเลยที่ 1 ตัดไม้ได้ เพียงแต่จำเลยที่ 1 มิได้ดำเนินการขออนุญาตทำไม้และแปรรูปไม้ให้ถูกต้องตามกฎหมายเท่านั้น พฤติการณ์แห่งคดีจึงไม่ร้ายแรงนัก ไม่ปรากฏว่าจำเลยทั้งสามเคยได้รับโทษจำคุกมาก่อนเห็นสมควรให้โอกาสแก่จำเลยทั้งสามกลับตัวประพฤติตนเป็นพลเมืองดีต่อไป ที่ศาลล่างทั้งสองไม่รอการลงโทษจำคุกให้จำเลยทั้งสามนั้น ศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วย ฎีกาของจำเลยทั้งสามฟังขึ้น แต่เพื่อให้จำเลยทั้งสามหลาบจำไม่หวนกลับไปกระทำความผิดซ้ำอีก เห็นสมควรลงโทษปรับอีกสถานหนึ่งและคุมความประพฤติจำเลยทั้งสามไว้ด้วย
อนึ่ง ที่ศาลล่างทั้งสองพิพากษาว่าจำเลยทั้งสามมีความผิดตามพระราชบัญญัติป่าไม้ ฯ มาตรา 69 ด้วยนั้นไม่ถูกต้อง เนื่องจากความผิดดังกล่าวเป็นกรณีมีไว้ในครอบครองซึ่งไม้หวงห้ามอันยังมิได้แปรรูป โดยไม่มีรอยตราค่าภาคหลวงหรือรอยตรารัฐบาลขาย ซึ่งโจทก์มิได้บรรยายมาในฟ้อง จึงไม่อาจพิพากษาว่าจำเลยทั้งสามมีความผิดตามบทมาตราดังกล่าวได้ และที่ศาลล่างทั้งสองสั่งจ่ายเงินสินบนนำจับแก่ผู้นำจับตามกฎหมายนั้นก็ไม่ถูกต้องเช่นกันเพราะตามคำฟ้องไม่ปรากฏว่า มีผู้ประสงค์เงินสินบนนำจับนำเจ้าพนักงานไปจับกุมจำเลยทั้งสาม จึงไม่อาจจ่ายเงินสินบนนำจับให้แก่ผู้นำจับได้ ปัญหาทั้งสองกรณีดังกล่าวแม้ไม่มีคู่ความฝ่ายใดอุทธรณ์ฎีกาขึ้นมา ศาลฎีกาเห็นสมควรแก้ไขเสียให้ถูกต้อง
พิพากษาแก้เป็นว่า ในความผิดตามพระราชบัญญัติป่าไม้ ฯ จำเลยทั้งสามมีความผิดตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ.2484 มาตรา 11 วรรคหนึ่ง, 48 วรรคหนึ่ง, 73 วรรคสอง (1) และให้ปรับจำเลยทั้งสามอีกสถานหนึ่ง โดยฐานทำไม้ ปรับคนละ 10,000 บาท ฐานแปรรูปไม้ ปรับคนละ 10,000 บาท ฐานมีไม้แปรรูป ปรับคนละ 10,000 บาท รวมปรับคนละ 30,000 บาท ฐานรับไว้ซึ่งของอันตนรู้ว่าเป็นของที่นำเข้ามาในราชอาณาจักรโดยหลีกเลี่ยงอากรข้อห้ามหรือข้อจำกัด ปรับจำเลยทั้งสามรวม 22,256 บาท จำเลยทั้งสามให้การรับสารภาพ ลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงปรับจำเลยทั้งสามคนละ 15,000 บาท และปรับจำเลยทั้งสามรวม 11,128 บาท โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 3 ปี คุมความประพฤติจำเลยทั้งสามไว้มีกำหนด 2 ปี โดยให้จำเลยทั้งสามไปรายงานตัวต่อพนักงานคุมประพฤติทุก 3 เดือนต่อครั้ง กับให้จำเลยทั้งสามทำกิจกรรมบริการสังคมหรือสาธารณประโยชน์ตามที่จำเลยทั้งสามและพนักงานคุมประพฤติเห็นสมควร มีกำหนด 30 ชั่วโมง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56 หากไม่ชำระค่าปรับให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29, 30 ยกคำขอให้จ่ายเงินสินบนนำจับแก่ผู้นำจับตามกฎหมาย นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 9.

Share