คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 822/2506

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยมีหน้าที่เรียกเก็บเงินค่าธรรมเนียมเป็นรายได้รัฐบาล โดยขายบัตรให้แก่ผู้ใช้ทางหลวงสายพหลโยธินที่ผ่านประตูน้ำพระอินทร์ไปยังด่านรังสิตจำเลยได้นำบัตรของด่านรังสิตที่ใช้แล้วมาหมุนเวียนขายให้แก่ผู้ใช้ยานยนต์ซึ่งผ่านประตูน้ำพระอินทร์ไปยังด่านรังสิตแล้วยักยอกเอาเงินค่าธรรมเนียมขายบัตรนั้นเป็นประโยชน์ของตนเสีย ย่อมผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 352 ไม่ผิดมาตรา 353.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยรับราชการกรมทางหลวงแผ่นดิน มีหน้าที่เรียกเก็บเงินค่าธรรมเนียมเป็นายได้รัฐบาลโดยขายบัตรให้แก่ผู้ใช้ทางหลวงสายพหลโยธินที่ผ่านประตูน้ำพระอินทร์ไปยังด่านรังสิต จำเลยกับพวกกระทำผิดหน้าที่โดยทุจริต ใช้อำนาจหน้าที่หาประโยชน์อันมิควรได้ไว้เป็นประโยชน์ของตนเองโดยจำเลยนำบัตร ๒ ฉบับของด่านรังสิตที่ใช้แล้วมาหมุนเวียนขายให้แก่นายทองหล่อและนายจำรัสผู้ใช้ยานยนต์ซึ่งผ่านประตูน้ำพระอินทร์ไปยังด่านรังสิต แล้วยักยอกเอาเงินค่าธรรมเนียมขายบัตร ๓๐ บาท เป็นประโยชน์ของตนเองและผู้อื่น ขอให้ลงโทษตามประมวลกฏหมายอาญา มาตรา ๓๕๓,๘๓,๘๖ ฯลฯ และให้คืนหรือใช้เงิน ๓๐ บาทแก่รัฐบาลด้วย
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นฟังข้อเท็จจริงว่า จำเลยได้กระทำผิดจริงตามฟ้อง พิพากษาว่าจำเลยผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๕๓ จำคุก ๓ เดือน และให้คืนหรือใช้เงิน ๓๐ บาทรัฐบาล
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า หลักฐานพยานโจทก์ยังไม่พอที่จะเชื่อว่าจำเลยได้กระทำผิดดังฟ้อง พิพากษากลับให้ยกฟ้อง
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่าจำเลยเป็ฯผู้ขายบัตรของกลางสองฉบับตามฟ้อง แล้วยักยอกเอาเงินเป็นของตนเสีย จำเลยจึงมีประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๕๒ ไม่ใช่มาตรา ๓๕๓ ดังที่ศาลชั้นต้นยกขึ้นปรับบท พิพากษากลับ ให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๕๒.

Share