แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
สมบกันไปหลอกลวงขอยืมทองคำจากเจ้าทรัพย์มาทำพิธีเสกเป่ายาต่อหน้าเจ้าทรัพย์แล้วเอาทองคำนั้นไปเสีย ไม่เปนผิดถานฉ้อโกง เพราะไม่ถือว่ามีการส่งมอบทรัพย์ไห้ไป
ย่อยาว
ได้ความตามคำพยานโจทว่า จำเลยพานายคำมาที่บ้านเจ้าทรัพย์ พูดขอยืมทองคำเอาไปครอบยาเพื่อไห้ยาสักดีสิทธิ เจ้าทรัพย์จึงเอาส้อยส่งไห้จำเลย ๔ เส้น จำเลยเอามือชั่งดูแล้วส่งไห้เจ้าทรัพย์ เจ้าทรัพย์รับมารวมห่อกะกาดแล้ววางไว้ตรงหน้าจำเลย นายทองคำซึ่งขนะนั้นนั่งติดกับจำเลยพูดขอยืมพานไส่ยา เจ้าทรัพย์ไปเอามาไห้ จำเลยเอามัดห่อยาและทองคำไส่พาน ทำพิธีจุดเทียนเสาเป่า แล้วไห้เจ้าทรัพย์เก็ห่อทองคำและห่อยาไว้ สั่งไม่ไห้ไไครถูกต้องเป็น ๆ จะไห้จำเลยมาภาวนาที่ห่อยา แล้วจำเลยกับนายทองคำก็ไป เมื่อไปแล้วเจ้าทรัพย์แก้ห่อทองออกดูมีแต่ร่างแห ตะกั่ว ทองคำหายไปหมด ทั้งนี้โดยจำเลยกับนายทองคำสมคบกันเอามา โจทขอไห้ลงโทสจำเลยถานฉ้อโกงตามมาตรา ๓๐๔
สาลชั้นต้นเห็นว่า เจ้าทรัพย์ไม่ได้ส่งทรัพย์ไห้ การกะทำไม่เปนผิดตามฟ้อง จึงพิพากสายกฟ้อง
สาลอุธรน์พิพากสากลับไห้ลงโทสตามมาตรา ๓๐๔
จำเลยดีกา สาลดีกาวินิฉัยว่า การที่จำเลยพูดขอยืมทองคำนั้นเปนที่เข้าใจกันระหว่างคนทั้งนั้นว่า ยืมมาทำพิธีต่อหน้าเจ้าทรัพย์เท่านั้น ฝ่ายผู้ยืมก็ดีและเจ้าทรัพยืก็ดีหาได้ตั้งมอบทองคำไห้ไปนอกครอบครองของเจ้าทรัพย์ไม่ กรนีจึงไม่เปนฉ้อโกง จึงพิพากสากลับสาลอุธรน์ ยืนตามสาลชั้นต้น.