แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยต้องหาว่ากระทำผิดตาม ม.293 หลบหนีไปก่อนฟังคำตัดสินศาลอุทธรณ์ ศาลออกหมายจับได้เกิน 5 ปี คดีขาดอายุความ ลงโทษไม่ได้ เทียบฎีกาที่ 1072/2464
ย่อยาว
เดิมจำเลยกับ ท. พ.ต้องหาว่าเปนผู้ร้ายลักเงินของหลวงไป ๔๗๐๐ บาท ๒๒ สตางค์ ศาลเดิมตัดสินลงโทษตามมาตรา ๒๙๓ ข้อ ๑-๔ ,๕-๑๑ ให้จำคุกไว้คนละ ๕ ปีกับใช้พระราชทรัพย์ ศาลอุทธรณ์ตัดสินกลับให้ยกฟ้อง ปล่อยตัวไป แต่ส่วนจำเลยนี้ได้หลบหนีไปเสียจากเรือนจำในระหว่างอุทธรณ์ โจทก์ได้ฎีกาต่อมา ศาลฎีกาวินิจฉัยแต่ฉะเพาะคดีส่วนตัว ท. พ.ว่ามีความผิดและให้ลงโทษตามที่ศาลเดิมตัดสินมาส่วนจำเลยนี้ศาลได้ออกหมายจับตามที่โจทก์ร้องขอเมื่อวันที่ ๑๘ สิงหาคม ๒๔๖๕ เจ้าหน้าที่จับตัวได้เมื่อวันที่ ๒ กันยายน ๒๔๗๒ ศาลเดิมจึงอ่านคำตัดสินศาลอุทธรณ์ให้จำเลยฟัง และส่งสำเนาฎีกาของโจทก์ให้แก่จำเลย ๆ ฎีกาคัดค้านว่าคดีโจทก์ขาดอายุความดังนี้
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีที่จำเลยต้องหานั้นถ้าจะมีผิดก็คงมีโทษเท่ากับ ท.พ. เพราะในกรรมอันเดียวกัน ซึ่งตามมาตรา ๒๙๓ มีโทษอย่างสูงเพียง ๕ ปี กำหนดอายุความต้องเข้าอยู่ในมาตรา ๗๘ ข้อ ๓ มีกำหนด ๕ ปี ถึงจำเลยจะหลบหนีไปตั้งแต่ระหว่างอุทธรณ์ ซึ่งระหว่างนั้นเปนเวลาหยุดอายุความตามมาตรา ๗๙ ก็ดี แต่เมื่อโจทก์ขอให้ศาลออกหมายจับจำเลยแล้วอายุความก็ต้องนับต่อไปใหม่ตั้งแต่วันศาลออกหมายจับจำเลย แต่พึ่งจับจำเลยได้เปนเวลาล่วงมาถึง ๗ ปีเศษดังนี้ คดีของโจทก์ขาดอายุความแล้วให้ปล่อยตัวไป