คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1144/2477

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

คำสั่งอธิบดีกรมสรรพสามิตต์ลงวันที่ 29 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2474 แลวันที่ 5 มีนาคม พ.ศ.2475 ซึ่งออกตามความใน ม.9 แห่งพระราชบัญญัติภาษีไม้ขีดไฟซึ่งทำในพระราชอาณาเขตต์ พ.ศ.2474 กฎหมายใหม่กับกฎหมายเก่า+กัน ไม้าขีดไฟที่ได้เสียภาษีแล้วตามอัตราในพระราชบัญญัติ+แต่ยังมิได้นำออกจาก+อุตสาหกรรม ต่อมาได้พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมอัตราภาษีไม้ขีดไฟ+ใช้ใหม่ดังนี้ เจ้าพนักงานมีอำนาจเรียกเก็บภาษีเพิ่มเติมตามอัตรา+กฎหมายใหม่ได้

ย่อยาว

คดีนี้ได้ความว่าโจทก์เป็นเจ้าของบริษัททำไม้ขีดไฟ เมื่อวันที่ ๓ มีนาคม พ.ศ.๒๔๗๕ เวลาเช้า โจทก์มีความประสงค์จะนำไม้ขีดไฟรวม ๓ กองเป็นจำนวน ๔๕๘ หีบออกจำหน่าย โจทก์ได้ชำระค่าภาษีต่อเจ้าพนักงานรวมทั้งสิ้นเป็นเงิน ๘๒๔๔ บาทในตอนบ่ายวันนั้นโจทก์ได้ขนไม้ขีดไฟรายนี้ออกจากโรงอุตส่าหกรรมของโจทก์ไปบ้างยังคงเหลืออีก ๒ กอง มีจำนวน ๔๕๒ หีบ ซึ่งยังมิได้ขนไป ในวันที่ ๓ มีนาคม นั้นเองได้มีพ.ร.บ.เก็บภาษีไม้ขีดไฟทำในพระราชอาณาเขตต์แก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ.๒๔๗๕ ออกประกาศใช้รุ่งขึ้นวันที่ ๔ มีนาคม อธิบดีกรมสรรพสามิตต์ได้ออกคำสั่งว่าด้วยการให้เก็บภาษีไม้ขีดไฟตามอัตราใหม่ สำหรับไม้ขีดไฟที่นำออกจากโรงอุตสาหกรรมตั้งแต่วันที่ ๔ มีนาคม เป็นต้นไปแลในวันที่ ๔ นั้นโจทก์ก็มาขอขนไม้ขีดไฟที่เหลืออยู่อีก ๒ กองออกจากโรงอุตสาหกรรมเจ้าพนักงานของจำเลยไม่อนุญาตโดยกล่าวว่าโจทก์ต้องเสียค่าภาษีเพิ่มเติมตามอัตราใหม่โจทก์ไม่ยอมแต่ในที่สุดจำต้องยอมจ่ายค่าภาษีเพิ่มเติมเป็นเงิน ๒๔๔๐๘ บาท โจทก์เห็นว่าจำเลยไม่มีอำนาจเรียกเงินจำนวนนี้จากโจทก์จึงฟ้องขอให้บังคับจำเลยคืนเงินให้แก่โจทก์
ศาลฎีกาเห็นว่าตามพ.ร.บ.เก็บภาษีไม้ขีดไฟซึ่งทำในพระราชาอาณาเขตต์ พ.ศ.๒๔๗๔ ม.๙ อธิบดีกรมสรรพสามิตต์มีอำนาจสั่งกำหนดทางการว่าด้วยวิธีเก็บเงินค่าภาษีจึงได้ออกคำสั่งตามความใน ม.๙ ลงวันที่ ๒๙ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๔๗๔ ว่า ผู้ประกอบอุตส่าหกรรมจะต้องไม่ขนไม้ขีดไฟไม่ว่าโดยวิธีใด ๆ ออกจากโรงอุตสาหกรรมจนกว่าจะได้เสียภาษีโดยถูกต้องแล้ว แลตามคำสั่งลงวันที่ ๔ มีนาคม พ.ศ.๒๔๗๕ มีว่า ไม้ขีดไฟที่ได้ทำขึ้นก่อนประกาศใช้พ.ร.บ.ที่แก้ไขเพิ่มเติมใหม่ก็ให้เก็บภาษีตามอัตราใน พ.ร.บ.ใหม่นั้น เห็นว่าตามคำสั่ง ๒ ฉะบับนี้ แม้ว่าเมื่อวันที่ ๓ มีนาคมโจทก์จะได้เสียภาษีไม้ขีดไฟไว้แล้วตาม พ.ร.บ.ฉะบับเก่าก็ดีก็หาเป็นข้อคุ้มครองตลอดไปได้ไม่เพราะได้มีกฎหมายใหม่ออกประกาศใช้แล้วก่อนที่โจทก์นำไม้ขีดไฟออกจากโรงอุตสาหกรรม โจทก์ย่อมกล่าวไม่ได้เลยว่าเวลาที่นำไม้ขีดไฟออกจากโรงอุตสาหกรรมโจทก์ได้ชำระค่าภาษีตาม พ.ร.บ.ที่ใช้อยู่ขณะนั้นโดยครบถ้วนแล้ว แลเห็นว่าตาม พ.ร.บ.ศุลกากรแล พ.ร.บ.ไม้ขีดไฟก็กำหนดวิธีปฏิบัติการของเจ้าพนักงานในเรื่องการเก็บภาษีอย่างเดียวกัน ตามคำสั่งดังกล่าวแล้ว จึงต้องถือว่าเจ้าพนักงานมีอำนาจที่จะเก็บภาษีไม้ขีดไฟให้ครบถ้วนตามอัตราในกฎหมายได้ตลอดจนกระทั่งเวลาจะนำไม้ขีดไฟออกจากโรงอุตส่าหกรรม บรรดาไม้ขีดไฟที่บรรจุลักแล้วและตลอดเวลาที่อยู่โรงอุตสาหกรรม จึงอยู่ในระวางเรียกเก็บภาษีตลอดไป แม้จะได้ชำระค่าภาษีตามกฎหมายเก่าไปแล้วก็ยังไม่หลุดพ้นจากเขตต์การเรียกเก็บภาษีฉะนั้นการที่เจ้าพนักงานเรียกเงินค่าภาษีเพิ่มเติมนั้นถูกต้องแล้ว โจทก์ไม่มีสิทธิฟ้องเรียกคืน จึงพิพากษากลับคำตัดสินศาลล่างทั้ง ๒ ให้ยกฟ้องโจทก์

Share