คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 815/2502

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

คดีอาญา หากปรากฏในทางพิจารณาจะวินิจฉัยให้เป็นคุณแก่จำเลย ในทางใดได้ แม้จำเลยจะมิได้โต้แย้งมา ศาลมีอำนาจหยิบยกขึ้นวินิจฉัยเป็นผลดีแก่จำเลยได้
จำเลยและผู้ตายเป็นสามีภริยากัน ได้เกิดทะเลาะกัน เพราะจำเลยตีบุตร ผู้ตายตีจำเลย ๆ กำลังนั่งกินหมากอยู่ จึงใช้มีดเขียนหมากแทงสวนไป 1 ที ถูกที่ชายโครงข้างขวา ค่อนข้างไปทางหลังลึกทะลุใน ผู้ตายถึงแก่ความตายดังนี้ จำเลยย่อมมีผิดฐานฆ่าคนโดยไม่เจตนา

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมาอาญา มาตรา ๒๘๘
จำเลยให้การรับสารภาพว่า ได้แทงผู้ตายจริง แต่เป็นการทำไปโดยบันดาลโทสะ
ศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุกจำเลย ๖ ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๘, ๗๒ ลดฐานรับสารภาพ ๑ ใน ๓ คงจำคุก ๔ ปี
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า จำเลยมิได้เจตนาฆ่าผู้ตาย พิพากษาแก้ว่า จำเลยมีผิดตาม มาตรา ๒๙๐, ๗๒ ให้จำคุก ๑ ปี นอกจากแก้ยืนตาม
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า คดีอาญานั้น หากปรากฏในทางพิจารณาจะวินิจฉัยให้เป็นคุณแก่จำเลยในทางใดได้ แม้จำเลยจะมิได้โต้แย้งมา ศาลก็มีอำนาจหยิบยกขึ้นวินิจฉัยเป็นผลดีแต่จำเลยได้
สำหรับความผิดของจำเลยนั้น ได้ความว่าจำเลยกับผู้ตายทะเลาะกัน เพราะจำเลยตีบุตร ๆ ร้องไห้ ผู้ตายตีจำเลย จำเลยนั่งกินหมากอยู่ จึงใช้มีดเจียนหมากที่กำลังใช้เจียนหมกแทงสวนไป ๑ ที ถูกผู้ตายที่ชายโครงค่อนไปทางข้างหลัง ลึกทะลุใน ผู้ตายถูกแทงแล้วเดินโซเซร้องบอกเพื่อนบ้าน จำเลยพอรู้ว่าผู้ตายถูกแทงก็วิ่งมาดูช่วยเอากลับบ้านและร้องไห้ ไม่น่าเชื่อว่าจำเลยคิดจะฆ่าผู้ตาย จำเลยถูกข่มเหงได้บันดาลโทสะ ใช้มีดเจียนหมากแทงสวนเพียงทีเดียว บังเอิญไปถูกที่สำคัญเข้า
พิพากษายืน

Share