คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 839/2516

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ตามฟ้องของโจทก์กล่าวอ้างว่า โจทก์เป็นเจ้าของที่ดินมีโฉนด ได้ทำสัญญาระบุว่า ให้จำเลยเช่าที่ดินบางส่วนตามโฉนดดังกล่าว โจทก์มิได้กล่าวอ้างถึงสิทธิอื่นใดในการให้เช่าที่ดิน แสดงว่าโจทก์ฟ้องคดีโดยอาศัยสิทธิการเป็นเจ้าของที่ดินอย่างเดียว เมื่อจำเลยให้การว่าที่พิพาทเป็นที่สาธารณประโยชน์ ไม่ใช่ที่ของโจทก์เห็นได้ว่ายังมีประเด็นโต้เถียงกันอยู่ การที่ศาลชั้นต้นสั่งงดสืบพยานของทั้งสองฝ่ายแล้วพิพากษาคดี จึงเป็นการไม่ชอบ ต้องยกคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไปแล้วพิพากษาใหม่

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยได้ทำหนังสือเช่าที่ดินบางส่วนตามโฉนดที่ดินเลขที่ 2662 ของโจทก์เพื่อปลูกบ้านอาศัย ครบกำหนดเวลาเช่าแล้ว โจทก์บอกให้จำเลยรื้อถอนขนย้ายออกไป จำเลยไม่ยอมออก จึงขอให้ศาลบังคับขับไล่และใช้ค่าเสียหาย

จำเลยให้การว่า ที่ดินของโจทก์ตกเป็นที่สาธารณประโยชน์แล้วจำเลยทำสัญญาเช่ากับโจทก์เพราะโจทก์หลอกลวงว่าเป็นที่ของโจทก์ การบอกกล่าวของโจทก์ไม่ชอบ ขอให้ยกฟ้อง

จำเลยแถลงรับในวันชี้สองสถานว่า ได้ทำสัญญาเช่าที่ดินโจทก์จริง สัญญาเช่าสิ้นกำหนดเวลาแล้ว ศาลชั้นต้นจึงสั่งงดสืบพยานแล้วพิพากษาให้จำเลยรื้อถอนขนย้ายออกไปจากที่ดินที่เช่าของโจทก์ห้ามเกี่ยวข้อง และให้ใช้ค่าเสียหายและค่าฤชาธรรมเนียมและค่าทนายความแทนโจทก์

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้ยกคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไปแล้วพิพากษาใหม่ตามรูปคดี ค่าฤชาธรรมเนียมและค่าทนายความให้รวมสั่งเมื่อพิพากษาใหม่

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า เห็นว่า ตามฟ้องของโจทก์กล่าวอ้างว่าโจทก์เป็นเจ้าของที่ดินโฉนดที่ 2662 ตำบลบางพระ อำเภอบางพระ จังหวัดชลบุรี เนื้อที่ 3 ไร่ 2 งาน 76 วา ได้ทำสัญญาระบุว่าให้จำเลยเช่าที่ดินบางส่วนตามโฉนดเลขที่ 2662 โจทก์มิได้กล่าวอ้างถึงสิทธิอื่นใดในการให้เช่าที่ดิน แสดงว่าโจทก์ฟ้องคดีโดยอาศัยสิทธิการเป็นเจ้าของที่ดินอย่างเดียว เมื่อจำเลยให้การว่า ที่พิพาทเป็นที่สาธารณะประโยชน์ ไม่ใช่ที่โจทก์ เห็นได้ว่ายังเป็นประเด็นโต้เถียงกันอยู่ การที่ศาลชั้นต้นสั่งงดสืบพยานของทั้งสองฝ่ายแล้วพิพากษาคดีไปทั้งที่ยังมีประเด็นโต้เถียงกัน ถึงแม้จะฟังว่าจำเลยได้ทำสัญญาเช่าจากโจทก์ก็ตามโจทก์จะมีอำนาจฟ้องขับไล่จำเลยได้ก็ต้องได้ความว่าที่พิพาทเป็นของโจทก์ เพราะถ้าโจทก์ไม่มีสิทธิเหนือพื้นดินโดยที่ดินรายนี้เป็นที่สาธารณประโยชน์แล้ว โจทก์ก็ไม่มีอำนาจเอาไปให้ผู้อื่นเช่า ดังนัยแห่งคำพิพากษาฎีกาที่ 1286/2508 นางถนอม วิไลวรรณ โจทก์ นางเฮียง เจริญฤทธิ์จำเลย ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาไว้นั้นชอบแล้ว ฎีกาของโจทก์ฟังไม่ขึ้น พิพากษายืนค่าฤชาธรรมเนียมในชั้นฎีกาให้ศาลชั้นต้นรวมสั่งเมื่อพิพากษาใหม่

Share