แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์ฟ้องเรียกร้องเอาทรัพย์สิ่งของจากจำเลย และประมาณราคาที่โจทก์ควรได้รับมา ในชั้นชี้สองสถานจำเลยยอมใช้ราคาตามที่โจทก์ฟ้องตามคำเปรียบเทียบของศาล โจทก์กลับไม่ยอมรับเงินจะให้ศาลดำเนินการพิจารณาต่อไป ศาลชั้นต้นสั่งว่าโจทก์ได้รับราคาทรัพย์สินตามที่ฟ้องเรียกร้องแล้ว ไม่มีอะไรที่จะต้องพิจารณาอีกต่อไป จึงสั่งตัดพยานและพิพากษาให้โจทก์รับเงินตามที่โจทก์ฟ้องเรียกร้อง
ศาลฎีกาพิพากษาว่า ราคาทรัพย์สินที่โจทก์เรียกมาเพียงแต่ประมาณเมื่อโจทก์ไม่ยอมตามที่ศาลเปรียบเทียบต้องพิจารณากันไป และตัดสินไปตามรูปคดี ถือว่าโจทก์ฟ้องเรียกร้องเอาเพียงที่ประมาณมาไม่ได้.
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องเรียกมรดกจากจำเลย โดยบรรยายฟ้องว่า มรดกที่จะแบ่งมีที่บ้าน ที่ไร่ เรือนและอื่น ๆ รวมราคา ๘๖๐๐ บาท โจทก์อ้างสิทธิว่าโจทก์ควรมีส่วนได้ในมรดกนี้ ๑ ใน ๖ ส่วน คิดเป็นเงินประมาณ ๑๔๓๓ บาท
จำเลยให้การว่าโจทก์มิได้ครอบครองมรดกรายนี้ คดีขาดอายุความมรดก
ในวันชี้สองสถาน ศาลได้เปรียบเทียบให้ ๆ เงินโจทก์ตามคำขอท้ายฟ้อง ๑๔๓๓ บาท จำเลยยอมแต่โจทก์ไม่ยอม ศาลชั้นต้นเห็นว่า จำเลยยอมปฏิบัติตามคำขอท้ายฟ้องของโจทก์แล้ว จึงสั่งงดสืบพยานและพิพากษาให้จำเลยใช้เงิน ๑๔๓๓ บาท ให้โจทก์โดยไม่ต้องเอาทรัพย์ตามฟ้องมาขายทอดตลาดเพื่อเอาเงินแบ่งกัน และไม่ให้โจทก์เกี่ยวข้องกับทรัพย์ดังกล่าวต่อไป
โจทก์อุทธรณ์ว่าราคาทรัพย์ตามคำขอท้ายฟ้องเป็นแต่เพียงประมาณ ขอให้พิพากษาแบ่งทรัพย์หรือขายทอดตลาดเอาเงินมาแบ่งกัน
ศาลอุทธรณ์พิพากษาว่า ราคาทรัพย์ที่โจทก์ขอแบ่งเป็นแต่เพียงประมาณ เมื่อจำเลยยอมใช้แต่โจทก์ไม่ยอมรับ ศาลจะพิพากษายังไม่ได้ ต้องดำเนินการพิจาณาและพิพากษาตามรูปคดี
ศาลฎีกาตัดสินยืน.