แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามกฎหมายลักษณะอาญามาตรา 254 ให้ลงโทษจำคุกจำเลย 1 ปี 6 เดือน ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลชั้นต้นเป็นว่าให้จำคุกจำเลยเพียง 6 เดือนและให้รอการลงโทษจำเลยตามมาตรา 41 ที่แก้ไขใหม่มีกำหนด 5 ปี นอกจากนี้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น ดังนี้เป็นแก้มาก คู่ความฎีกาในข้อเท็จจริงได้ไม่ต้องห้ามตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่าเมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 2499 เวลากลางวันจำเลยมีอาวุธปืนสมคบกันใช้พานท้ายปืนตีทำร้ายร่างกายพระภิกษุทองสุขบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดตำบลพนอม จังหวัดนครพนม ขอให้ลงโทษตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 256, 254, 63
จำเลยทั้ง 4 คนปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยที่ 1 มีความผิดตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 254 ให้ลงโทษจำคุก 1 ปี 6 เดือน จำเลยนอกนั้นไม่ได้ร่วมกระทำผิด ให้ยกฟ้อง
จำเลยที่ 1 อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลชั้นต้นว่า ให้กำหนดโทษจำคุกจำเลยที่ 1 เพียง 6 เดือน และให้รอการลงโทษตามมาตรา 41 ที่แก้ไขมีกำหนด 5 ปี นอกจากที่แก้ไขนี้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่าคดีนี้ศาลชั้นต้นตัดสินให้ลงโทษจำคุกจำเลยแต่ศาลอุทธรณ์ไม่ลงโทษจำเลย โดยให้รอการลงโทษไว้จะเรียกว่าศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นหรือแก้ไขเล็กน้อยตามความใน มาตรา 218 แห่ง ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาหาได้ไม่ต้องเรียกว่าแก้มาก ซึ่งคู่ความฎีกา (ในข้อเท็จจริงได้)
ส่วนข้อเท็จจริงนั้นเห็นว่าจำเลยกระทำอย่างวู่วามมาก กระทำแก่พระภิกษุทองสุขเป็นที่น่าสังเวชสลดใจอย่างทารุณ ไม่เห็นแก่ผ้ากาสาวพัสตร์ แม้กระทำแก่บุคคลธรรมดาก็ไม่บังควร ที่ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษมานั้นสมควรแก่ความผิดแล้ว
พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ว่า ให้บังคับคดียืนตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น