คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1045/2498

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การที่จำเลยใช้ปืนสั้นยิงในระยะใกล้ กระสุนปืนถูกผู้เสียหายมีบาดแผลถึง 7 แห่ง ดังนี้ย่อมแสดงว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าให้ตายแต่เผอิญถูกในที่ไม่สำคัญจึงไม่ตายจำเลยจึงต้องมีความผิดฐานพยายามฆ่าคน
เมื่อจำเลยเป็นผู้ก่อเหตุใช้ปืนยิงผู้เสียหายก่อน ผู้เสียหายจึงทำร้ายจำเลย ๆ ก็ยิงอีก หาใช่เป็นการป้องกันตัวดั่งข้อต่อสู้ไม่

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยบังอาจใช้ปืนยิงจ่าอากาศโทชาญชัยมีบาดเจ็บสาหัสโดยมีเจตนาฆ่า แต่กระสุนปืนไม่ถูกที่สำคัญจึงไม่ตาย
จำเลยให้การภาคเสธว่าใช้ปืนยิงไปเพื่อป้องกันตัว
ศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุกตาม ก.ม.อาญา ม. ๒๔๙-๖๐ และ๕๙ คงจำคุกจำเลย ๕ ปี ปืนสั้นคอลรีวอลเวอร์และปลอกกระสุนริบ
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์เชื่อว่าผู้เสียหายก่อเหตุและทำร้ายจำเลย ๆ จึงใช้ปืนยิงไปเพื่อป้องกันชีวิตพอสมควรแก่เหตุ พิพากษาให้ยกฟ้อง
อัยการโจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเชื่อว่าจำเลยเป็นผู้ก่อเหตุใช้ปืนยิงจ่าอากาศโทชาญชัยก่อน รูปคดีจึงไม่ใช่จำเลยได้ใช้ปืนยิงจ่าอากาศโทชาญชัยเพื่อป้องกันตัวดังข้อต่อสู้การที่จำเลยใช้ปืนยิงจ่าอากาศโทชาญชัยในระยะใกล้ใกล้หลายนัด กระสุนปืนถูกจ่าอากาศโทชาญชัยมีบาดแผลถึง ๗ แห่ง แสดงว่าจำเลยมีเจตนาจะฆ่าให้ตายแต่เผอิญกระสุนปืนถูกในที่ไม่สำคัญจึงไม่ตาย จำเลยก็ต้องมีความผิดฐานพยายามฆ่าคน
จึงพิพากษากลับให้บังคับคดีลงโทษจำเลยตามศาลชั้นต้น

Share