คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 391/2499

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ฟ้องว่าขอแบ่งมรดกจากจำเลยครึ่งหนึ่งของมรดก มีทายาทคนหนึ่งร้องสอดเข้ามาเป็นจำเลยร่วมด้วยอ้างว่ามีส่วนได้ส่วนเสียตาม ก.ม.ตามทางพิจารณาปรากฏว่าเจ้ามรดกรายนี้มีทายาทรวมทั้งหมด 5 คนคือโจทก์ จำเลย ผู้ร้องสอดและทายาทอื่นอีก 2 คน ที่มิได้เข้ามาเป็นคู่ความในคดีนี้ถือว่าการแบ่งทรัพย์มรดกรายนี้ต้องแบ่งให้เพียงเท่าที่คู่ความมีสิทธิควรจะได้จะแบ่งโดยเอาส่วนของทายาทอื่นไปให้ด้วยหาได้ไม่ เพราะไม่ใช่ส่วนได้ของคู่ความในคดีนี้และการแบ่งเช่นนี้มิใช่เป็นการกันส่วนแห่งทรัพย์มรดกไว้เพื่อทายาทอื่นตามความใน ป.พ.พ. ม.1749 ดังนั้นจะแบ่งเป็น 3 ส่วนโดยถือว่าทายาทอีก 2 คนฟ้องหรือร้องขึ้นมาอาจถูกยกอายุความฟ้องแบ่งมรดกหรือสิทธิอ้างอิงเหตุอื่นเป็นข้อต่อสู้อ้างอิงและไม่ให้ได้รับส่วนแบ่งหาได้ไม่ เพราะเหตุต่อสู้ผลของการต่อสู้ยังไม่ปรากฏมีขึ้นทั้งทายาทอาจตกลงแบ่งกันโดยดีหรือไม่ยกเหตุต่อสู้อะไรก็ได้จึงต้องแบ่งทรัพย์มรดกออกเป็น 5 ส่วนให้โจทก์จำเลยและผู้ร้องสอดได้คนละ 1 ส่วน.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอแบ่งมรดกของบิดามารดาจากจำเลย โดยอ้างว่าโจทก์จำเลยเป็นพี่น้องร่วมบิดามารดาเดียวกัน บิดามารดาตายแล้วโจทก์จำเลยรับมรดกครอบครองร่วมกันมา บัดนี้จำเลยผู้เป็นพี่โจทก์ขับไล่มิให้โจทก์อยู่ร่วมเรือนมรดกด้วย จึงขอให้ศาลบังคับให้จำเลยแบ่งมรดกแก่โจทก์
จำเลยต่อสู้ว่าทรัพย์บางอย่างไม่มีที่จำเลยและว่าได้มีการแบ่งทรัพย์มรดกระหว่างบรรดาทายาทกันแล้วโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง
ระหว่างพิจารณานายหรุ่มทายาทอีกคนหนึ่งร้องสอดเข้ามาเป็นจำเลยร่วม ศาลอนุญาต
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วฟังว่าบิดาโจทก์มีบุตร ๕ คนคือโจทก์ จำเลยและผู้ร้องสอด และบุตรอีก ๒ คน เมื่อบิดามารดาโจทก์จำเลยตายแล้วยังไม่ได้แบ่งมรดกกันแต่ทรัพย์มรดกมีอะไรบ้างโจทก์สืบไม่ได้สมตามฟ้อง จึงต้องฟังตามจำเลย แล้วพิพากษาให้แบ่งทรัพย์มรดกให้โจทก์ ๑ ใน ๕ ส่วน ถ้าแบ่งไม่ตกลงกันให้ประมูลขายทอดตลาดแบ่งราคากัน
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้แบ่งส่วนทรัพย์มรดกเป็น ๓ ส่วน ให้โจทก์จำเลยและผู้ร้องสอดได้คนละ ๑ ส่วน
จำเลยฎีกาขอให้แบ่งมรดกตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่าในข้อแบ่งทรัพย์มรดกควรแบ่งกันกี่ส่วนนั้นศาลฎีกาเห็นว่าการแบ่งทรัพย์มรดกรายนี้ต้องแบ่งให้เพียงเท่าที่คู่ความมีสิทธิควรจะได้ จะแบ่งโดยเอาส่วนของทายาทอื่นไปให้ด้วยหาได้ไม่ เพราะไม่ใช่ส่วนได้ของคู่ความในคดีนี้และการแบ่งเช่นนี้มิใช่เป็นการกันส่วนแห่งทรัพย์มรดกไว้เพื่อทายาทอื่นตามความใน ม.๑๗๙๔ แห่ง ป.พ.พ. ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้แบ่งทรัพย์มรดกนี้ออกเป็น ๓ ส่วนให้โจทก์จำเลยและผู้ร้องสอดได้คนละส่วนโดยยกเหตุว่าหากนางแฉล้มและนายเหลี่ยมทายาทอีก ๒ คน ฟ้องหรือร้องขอส่วนแบ่งขึ้นมาก็อาจถูกยกอายุความฟ้องแบ่งมรดกหรือสิทธิ อ้างอิงเหตุอื่นเป็นข้อต่อสู้ไม่ให้ได้รับส่วนแบ่งได้นั้น ศาลฎีกาเห็นว่าเรื่องของทายาทผู้ครอบครองทรัพย์มรดกรายนี้จะยกเหตุต่อสู้อ้างอิงประการใด เมื่อถูกฟ้องขอแบ่งข้อต่อสู้จะมีผลให้ต้องแบ่งหรือไม่เพียงใดยังไม่ปรากฏ หรือเขาอาจยินยอมแบ่งปันกันโดยดีไม่ยกเหตุอะไรเป็นข้อต่อสู้ก็ได้ จึงไม่สมควรจะแบ่งโดยเอาส่วนของทายาทอื่นไปให้ในชั้นนี้ จึงพิพากษาแก้คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ในข้อให้แบ่งส่วนทรัพย์มรดกรายนี้ เป็นว่าให้แบ่งออกเป็น ๕ ส่วน ให้โจทก์ จำเลย และผู้ร้องสอดนายหรุ่มได้คนละส่วน นอกจากที่แก้คงยืนตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์.

Share