คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1604/2500

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ฟ้องตั้งรูปคดีมาเป็นเรื่องหุ้นส่วน ซึ่งจำเลยต่อสู้ว่าไม่ได้เข้าหุ้นส่วนกับโจทก์และอ้างว่าการที่จำเลยเข้าอยู่ในตึกแถวรายพิพาทก็โดยเช่าจากโจทก์ซึ่งเป็นตัวแทนของบุคคลภายนอก เช่นนี้เป็นหน้าที่โจทก์จะต้องนำสืบก่อน เพราะโจทก์เป็นฝ่ายกล่าวอ้างข้อเท็จจริงสนับสนุนคำฟ้องของตน เมื่อโจทก์นำสืบไม่สมว่าเป็นหุ้นส่วนกัน ก็เป็นการเพียงพอที่จะยกฟ้องเสียได้ ไม่จำเป็นจะต้องวินิจฉัยไปถึงพยานหลักฐานของจำเลย เพราะข้อที่จำเลยจะได้เช่าตึกรายพิพาทจากโจทก์หรือไม่นั้น ไม่ใช่ประเด็นในคดีนี้ ข้อต่อสู้ของจำเลยดังกล่าวเป็นแต่เพียงเหตุแห่งการปฏิเสธว่าไม่ได้เป็นหุ้นส่วนกับโจทก์เท่านั้น ประเด็นในคดีนี้มีเพียงว่า การที่จำเลยเข้ามาทำการค้าในสถานที่รายพิพาท โดยจำเลยเข้ามาในฐานะที่เป็นหุ้นส่วนกับโจทก์หรือมิใช่.

ย่อยาว

เรื่อง เลิกห้างหุ้นส่วน ชำระบัญชี ขับไล่
โจทก์ฟ้องว่าโจทก์จำเลยทำสัญญาเข้าหุ้นส่วนทำการค้าโดยโจทก์ออกสถานที่ จำเลยออกทุน และดำเนินกิจการค้า ตกลงกันว่าผลกำไรแบ่งกันคนละครึ่ง แต่แล้วจำเลยไม่เคยคิดบัญชีและแบ่งผลกำไรให้โจทก์เลย ขอให้ศาลบังคับให้เลิกห้างหุ้นส่วน ตั้งผู้ชำระบัญชี และขับไล่จำเลยกับบริวารออกจากตึกแถว
จำเลยและผู้ร้องสอดเข้าเป็นจำเลยร่วมต่อสู้ว่า โจทก์ไม่เคยเข้าหุ้นส่วนกับจำเลย เหตุที่จำเลยเข้ามาทำการค้าที่ตึกแถวนี้ จำเลยเช่ามาจากนายพีดาอาลี ซึ่งได้เช่ามาจากสำนักงานทรัพย์สินฯ จำเลยติดต่อกับโจทก์ในฐานะตัวแทนของนายพีดาอาลี
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นให้ยกฟ้องโจทก์ โดยฟังว่าโจทก์จำเลยไม่ได้เป็นหุ้นส่วนกัย
แต่ผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์นายหนึ่งมีความเห็นแย้งว่า ถึงแม้จะฟังตามที่โจทก์นำสืบก็ยกฟ้องโจทก์ไม่ได้ ควรยกคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้ย้อนสำนวนไปให้ศาลชั้นต้นวินิจฉัยข้อเท็จจริงจากพยานหลักฐานของจำเลยด้วยให้แน่นอนแล้วพิพากษาใหม่
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่าโจทก์ฟ้องตั้งรูปคดีมาเป็นเรื่องหุ้นส่วน ซึ่งจำเลยต่อสู้ว่าไม่ได้เข้าหุ้นส่วนกับโจทก์ การที่จำเลยเข้าอยู่ในตึกแถวรายพิพาทก็โดยเช่าจากโจทก์ซึ่งเป็นตัวแทนของนายพีคาอาลี คดีนี้จึงมีประเด็นโต้เถียงกันว่า การที่จำเลยเข้ามาทำการค้าในสถานที่รายพิพาทนี้ โดยจำเลยเข้ามาในฐานะที่เป็นหุ้นส่วนกับโจทก์หรือมิใช้ เพราะโจทก์ตั้งรูปคดีมาเช่นนั้น และจำเลยก็ปฏิเสธอยู่ว่า ไม่ได้เป็นหุ้นส่วนกับโจทก์ โจทก์เป็นฝ่ายกล่าวอ้างข้อเท็จจริงสนับสนุนคำฟ้องของตน จึงเป็นหน้าที่ของโจทก์จะต้องนำสืบความข้อนี้ เมื่อโจทก์นำสืบไม่สมว่าเป็นหุ้นส่วนกัน ก็เป็นการเพียงพอที่จะยกฟ้องของโจทก์เสียได้ ไม่จำเป็นจะต้องวินิจฉัยไปถึงพยานหลักฐานของจำเลยดังความเห็นแย้ง เพราะข้อที่จำเลยจะได้เช่าตึกรายพิพาทจากโจทก์หรือไม่ และโจทก์เป็นตัวแทนของนายพีดาอาลีหรือไม่นั้น ไม่ใช่ประเด็นในคดีนี้ ข้อต่อสู้ของจำเลยดังกล่าวเป็นแต่เพียงเหตุแห่งการปฏิเสธว่าไม่ได้เป็นหุ้นส่วนกับโจทก์เท่านั้น.
พิพากษายืน.

Share