คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2014/2500

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ศาลอุทธรณ์พิพากษารวมกระทงลงโทษจำเลยสำหรับความผิดตาม ก.ม.ลักษณะอาญา ม. 243 และ 276 เมื่อผู้เสียหายถอนคำร้องทุกข์หรือยอมความกับจำเลยสำหรับความผิดตาม ม.243 แล้ว ศาลฎีกาพิพากษาแก้ว่า จำเลยมีความผิดตาม ม.246 เพียงกระทงเดียว และศาลฎีกา มีอำนาจกำหนดโทษสำหรับความผิดตาม ม.276 ได้.

ย่อยาว

เรื่อง ฉุดคร่าอนาจาร ข่มขืนกระทำชำเรา ทำร้ายร่างกาย
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยทั้งสองมีมีดสมคบกับฉุดคร่า น.ส.เกียะ หรือ ยุพิน อายุ ๑๙ ปี ไปเพื่อการอนาจาร ทำให้ น.ส.เกียะ หรือ ยุพิน และมารดาซึ่งเข้าช่วยเหลือมีบาดแผลไม่ถึงบาดเจ็บ และจำเลยที่ ๑ ข่มขืนกระทำชำเรา น.ส.เกียะ หรือ ยุพิน จนสำเร็จความใคร่ ขอให้ลงโทษ
จำเลยทั้งสองรับสารภาพ
ศาลชั้นต้นพิพากษา คดีเฉพาะจำเลยที่ ๒ ไป ส่วนจำเลยที่ ๑ โจทก์ขอสืบพยานประกอบ
เมือโจทก์สืบพยานแล้ว ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยที่ ๑ ผิดตาม ก.ม.ลักษณะอาญา ม. ๒๔๓ และ ๒๗๖ รวม กระทงลงโทษจำคุก ๑ ปี ๖ เดือน ลดตาม ม. ๕๘ ทวิ และ ๕๙ ลงอีก คงให้จำคุก ๔ เดือน ๑๕ วัน เฉพาะข้อหาฐานทำร้ายร่างกาย ให้ยกฟ้องสำหรับจำเลยที่ ๑
โจทก์ร่วมอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ว่าจำเลยที่ ๑ ผิด ม.๒๔๓, ๒๗๖ ให้รวมกระทงลงโทษจำคุก ๘ ปี ลดตาม ม. ๕๘ ทวิ. และ ๕๙ ลงอีก คงให้จำคุก ๒ ปี ๘ เดือน
จำเลยที่ ๑ ฎีกา
ศาลชั้นต้นสั่งรับฎีกา และในวันเดียวกันนั้น นางยุพิน ยืนคำร้องขอถอนคดี ไม่ติดใจว่ากล่าวเอาความแก่จำเลย และนางยุพินแถลงว่าอายุ ๒๑ ปี แล้ว
ศาลฎีกาเห็นว่า ศาลอุทธรณ์พิพากษารวมกระทงลงโทษจำเลยสำหรับความผิดทั้งสองฐาน เมื่อผู้เสียหายถอนคำร้องทุกข์หรือยอมความกับจำเลย สำหรับความผิดตาม ม.๒๔๓ แล้ว ศาลฎีกาจึงเห็นสมควรพิพากษาแก้ศาลอุทธรณ์ว่า จำเลยคงมีความผิดฐานฉุดคร่าเพื่อการอนาจารแต่เพียงกระทงเดียว ให้ลงโทษจำคุก ๑ ปี ๖ เดือน ลดตาม ม.๕๘ ทวิ. และ ๕๙ ลงอีก คงให้จำคุก ๔ เดือน ๑๕ วัน .

Share