คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 719/2500

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

คำว่า “ผู้รักษาการแทน” ตามกฎกระทรวงมหาดไทยดั่งกล่าว หมายถึงผู้รักษาราชการแทนโดยธรรมดา เช่นไม่มีตัวนายอำเภอหรือนายอำเภอไม่ได้มาปฏิบัติราชการ ผู้มีอาวุโสตามระเบียบแบบแผนทำงานแทน เรียกว่าเป็นผู้รักษาราชการแทน ถ้ามีตัวนายอำเภอและนายอำเภอมาปฏิบัติราชการอยู่ แม้จะมีงานมากและนายอำเภอได้สั่งให้ปลัดอำเภอช่วยทำแทนให้งานสำเร็จลุล่วงไปโดยรวดเร็ว ผู้รับคำสั่งจากนายอำเภอคือ ปลัดอำเภอก็เป็นแต่เพียงผู้ทำงานแทนนายอำเภอ ไม่ใช่เป็นผู้รักษาราชการแทน
เมื่อปลัดอำเภอไม่ใช่เป็นผู้รักษาราชการแทนนายอำเภอ แต่ปลัดอำเภอได้ลงนามออกบัตรประชาชนให้แก่ผู้อื่นไป การกระทำของปลัดอำเภอก็เป็นการกระทำโดยไม่มีอำนาจและหน้าที่ ปลัดอำเภอไม่มีความผิดตามกฎหมายลักษณะ อาญา ม.230.

ย่อยาว

เรื่อง ใช้อำนาจหน้าที่ในทางทุจริต
โจทก์ฟ้องจำเลยที่ ๑ ซึ่งเป็นปลัดอำเภอและจำเลยที่ ๒ ซึ่งเป็นคนต่างด้าว ฐานให้และรับสินบนกระทงหนึ่ง และฐานเป็น เจ้าพนักงานมีตำแหน่งที่ทำหนังสือราชการเอาเนื้อความเท็จมาจดเป็นความจริง คือ ออกบัตรประชาชนให้แก่จำเลยที่ ๒ อันเป็นข้อความเท็จอีกกระทงหนึ่ง
จำเลยที่ ๑ ปฏิเสธต่อสู้ว่า มิได้รับแต่งตั้งจากนายอำเภอให้มีหน้าที่ตามฟ้อง ไม่ทราบว่าจำเลยที่ ๒ เป็นคนต่างด้าวและมิได้ รับสินบน ทั้งเชื่อว่าจำเลยที่ ๒ เป็นคนไทยตามหลักฐานที่เจ้าหน้าที่เสนอมา
จำเลยที่ ๒ รับว่า จำเลยที่ ๒ มีใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าวจริง แต่ปฏิเสธว่ามิใช่คนต่างด้าวแต่เป็นคนไทย เกิดใน ประเทศไทย กับตัดฟ้องว่าฟ้องเคลือบคลุม
ศาลอาญาพิจารณาแล้ว เห็นว่าเรื่องรับสินบน หลักฐานไม่พอ ส่วนเรื่องจดข้อความเท็จในคำร้อง ทะเบียนบัตรประชาชน จำเลยที่ ๒ ไม่ได้รู้เห็นด้วย ส่วนจำเลยที่ ๑ นั้น เชื่อว่าจำเลยที่ ๑ มีเจตนาออกบัตรประชาชนให้แก่จำเลยที่ ๒ โดยรู้ว่า จำเลยที่ ๒ ไม่มีสิทธิจะได้รับบัตรประชาชนจริง การที่จำเลยที่ ๑ ออกบัตรประชาชนให้แก่จำเลยที่ ๒ จึงเป็นการจดข้อความ เท็จ ตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา ๒๓๐ ซึ่งโจทก์ขอให้ลงโทษจำเลยได้บัญญัติถึงความผิดของเจ้าพนักงานผู้มี ตำแหน่งหน้าที่ที่จะทำหนังสือราชการนั้น แต่ตามกฎกระทรวงมหาดไทยซึ่งออกตามความใน พ.ร.บ.บัตรประชาชน ๒๔๘๖ (พ.ศ. ๒๔๙๕) ว่า การออกบัตรประชาชนเป็นอำนาจของนายอำเภอ หรือผู้รักษาการแทนโดยตรง ผู้ใดอื่นจะออกไม่ได้ จำเลยที่ ๑ ไม่ใช่เจ้าพนักงานมีตำแหน่งหน้าที่ในการนี้ ไม่มีอำนาจที่จะทำบัตรประชาชนได้โดยชอบด้วยกฎหมาย จึงไม่มี ความผิดพิพากษายกฟ้องโจทก์
โจทก์อุทธรณ์ขอให้ลงโทษจำเลยที่ ๑ คนเดียว
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า ปัญหาข้อกฎหมายคงมีเพียงว่า การที่นายอำเภอสั่งให้จำเลยที่ ๑ (ซึ่งเป็นปลัดอำเภอ) ลงนามออกบัตร ประชาชนแทน จะถือว่าจำเลยที่ ๑ เป็นผู้รักษาราชการแทนได้หรือไม่
ศาลฎีกาโดยที่ประชุมใหญ่เห็นว่า แม้ พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. ๒๔๙๕ มาตรา ๔๒ จะบัญญัติว่า “ถ้า นายอำเภอไม่อาจปฏิบัติราชการได้ตามปกติและมิได้ตั้งผู้ใดเป็นผู้รักษาราชการแทน ให้หัวหน้าส่วนราชการประจำ อำเภอผู้มีอาวุโสตามระเบียบแบบแผนรักษาราชการแทน” ก็ดี แต่กฎกระทรวงมหาดไทยออกตามความใน พ.ร.บ.บัตร ประชาชน พ.ศ.๒๔๘๖ ก็มีความว่า “ฯลฯ ให้นายอำเภอหรือปลัดอำเภอซึ่งเป็นหัวหน้าประจำกิ่งอำเภอ หรือผู้รักษาการแทน เป็นพนักงานเจ้าหน้าที่เฉพาะในเขตอำเภอหรือกิ่งอำเภอนั้น ๆ ฯลฯ” คำว่า “ผู้รักษาการแทน” ตามกฎนี้หมายถึงผู้รักษา ราชการแทนโดยธรรมดา เช่นไม่มีตัวนายอำเภอหรือนายอำเภอไม่ได้มาปฏิบัติราชการ ผู้มีอาวุโสตามระเบียบแบบแผน ทำงานแทน เรียกว่าเป็นผู้รักษาราชการแทน ถ้ามีตัวนายอำเภอและนายอำเภอมาปฏิบัติราชการอยู่ แม้จะมีงานมากและ นายอำเภอได้สั่งให้ปลัดอำเภอช่วยทำแทนเพื่อให้งานสำเร็จลุล่วงไปโดยรวดเร็ว เช่นคดีเรื่องนี้ ผู้รับคำสั่งจากนายอำเภอ คือ จำเลยที่ ๑ ก็เป็นแต่เพียงผู้ทำงานแทนนายอำเภอ หาใช่เป็นผู้รักษาราชการแทนไม่ เมื่อจำเลยที่ ๑ ไม่เป็นผู้รักษา ราชการแทนนายอำเภอ แต่จำเลยที่ ๑ ได้ลงนามออกบัตรประชาชนให้แก่จำเลยที่ ๒ ไป
การกระทำของจำเลยที่ ๑ ก็เป็น การกระทำโดยไม่มีอำนาจและหน้าที่ จำเลยที่ ๑ จึงไม่มีความผิดตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา ๒๓๐
พิพากษายืน.

Share