แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ในคดีเรื่องละเมิดเรียกค่าเสียหายทุนทรัพย์ไม่เกิน  5,000 บาท  ซึ่งศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาว่าจำเลยทำการละเมิดจริง  แต่ศาลชั้นต้นให้จำเลยใช้ค่าเสียหายเพียง 1,000 บาท ส่วนศาลอุทธรณ์ให้จำเลยใช้ค่าเสียหาย 3,646  บาท  ตามคำฟ้องเช่นนี้ เป็นการแก้ไขเล็กน้อย  ต้องห้ามตาม ป.วิ.แพ่ง มาตรา 248 ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงไม่ได้
( ฎีกาที่ 181/2498  ประชุมใหญ่ )
( ฎีกาที่ 1499/2498  และที่ 362/2500  )
ย่อยาว
คดีได้ความว่า  จำเลยได้ตั้งระหัดวิดน้ำจากหนองในนาโจทก์  น้ำในนาโจทก์ไม่พอเลี้ยงต้นข้าว  เป็นการละเมิดเป็นเหตุให้ข้าวในนาโจทก์เสียหาย  ศาลชั้นต้นเห็นว่าโจทก์เสียหายเพียงประมาณ ๑ ใน ๔ ของค่าเสียหาย ที่โจทก์ขอให้บังคับจำเลย  จึงพิพากษาให้จำเลยร่วมกันใช้ค่าเสียหายให้โจทก์ ๑,๐๐๐ บาท
โจทก์อุทธรณ์ว่าควรได้ค่าเสียหายและดอกเบี้ย ( ร้อยละ ๗ ครึ่ง ) ตามฟ้อง  จำเลยอุทธรณ์ว่ามิได้ละเมิดสิทธิของโจทก์ไม่ต้องรับผิดใช้ค่าเสียหาย
ศาลอุทธรณ์เห็นว่าจำเลยได้ทำละเมิดต่อโจทก์จริง และโจทก์เสียหายดังฟ้อง  พิพากษาแก้ให้จำเลยทั้งสองใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์  ๓,๖๔๖  บาท กับดอกเบี้ยร้อยละ ๗ ครึ่งต่อปี
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า  คดีนี้ศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงเช่นเดียวกับศาลชั้นต้นว่า จำเลยได้ทำละเมิดต่อโจทก์ จำต้องใช้ค่าเสียหายให้โจทก์  การที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เฉพาะจำนวนค่าเสียหาย ส่วนอื่น ๆ หาได้แก้ไขประการใดไม่ เช่นนี้เป็นการแก้ไขเล็กน้อย  จำเลยจึงฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงไม่ได้  จำเลยฎีกาเถียงมาในข้อเท็จจริงทั้งสิ้น  จะรับฎีกาจำเลยไว้วินิจฉัยไม่ได้  ให้ยกฎีกาจำเลย .

