คำสั่งคำร้องที่ 1629/2536

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า ศาลฎีกามีคำสั่งไม่อนุญาตให้คืนบัญชีเงินฝากแก่จำเลย ดังนั้นจำเลยจึงขอรับโฉนดที่ดินเลขที่ 43568ตำบลหนองจะบก อำเภอเมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมาคืนจากศาล เนื่องจากโฉนดที่ดินดังกล่าวจำเลยได้ยื่นต่อศาลเพื่อขอเปลี่ยนหลักประกันเดิม มิใช่ยื่นเพื่อเป็นหลักประกันในการขอทุเลาการบังคับ โปรดอนุญาต
หมายเหตุ โจทก์ยังไม่ได้รับสำเนาคำร้อง
คดีสืบเนื่องจากชั้นอุทธรณ์ จำเลยได้รับอนุญาตให้ทุเลาการบังคับไว้ โดยจำเลยได้วางบัญชีเงินฝากประจำเลขที่ 301-2-32681-2 จำนวนเงิน 400,000 บาท ของธนาคารกรุงไทย จำกัด สาขานครราชสีมา เป็นหลักประกันกับได้ทำสัญญาค้ำประกันให้ไว้ต่อศาลชั้นต้น ต่อมา ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษายืน ให้จำเลยชำระเงินจำนวน 250,000 บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปี นับตั้งแต่วันที่ 13 ตุลาคม 2529 เป็นต้นไปจนกว่า จะชำระเสร็จแก่โจทก์
จำเลยฎีกา พร้อมกับยื่นคำร้องขอทุเลาการบังคับในระหว่าง ฎีกาและคำแถลงขอเปลี่ยนหลักประกันโดยขอนำโฉนดที่ดิน เลขที่ 43568 มาวางแทนบัญชีเงินฝากซึ่งวางไว้ในชั้นอุทธรณ์ (อันดับ 73,74,82)
ศาลฎีกาสั่งคำร้องและคำแถลงว่า ถ้าจำเลยหาประกันสำหรับ จำนวนเงินที่จะต้องชำระตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 1 นับถึงวันฟังคำสั่งนี้และต่อไปอีก 1 ปี มาวางให้เป็นที่พอใจ และภายในระยะเวลาที่ศาลชั้นต้นกำหนด ก็อนุญาตให้ทุเลา การบังคับไว้ในระหว่างฎีกาและให้คืนหลักประกันเดิมแก่จำเลย มิฉะนั้นให้ยกคำร้องและไม่คืนหลักประกันเดิม (กากสำนวน อันดับ 9)
วันนัดพิจารณาหลักประกัน จำเลยแถลงขอวางหลักประกันใหม่ คือโฉนดที่ดินเลขที่ 43578 ตำบลหนองจะบก อำเภอเมืองนครราชสีมาจังหวัดนครราชสีมา ราคาประเมิน 175,000 บาท แทนสมุดบัญชี เงินฝากประจำของธนาคารกรุงไทย จำกัด สาขานครราชสีมา บัญชีเลขที่ 301-2-32681-2 ซึ่งจำเลยวางไว้ในการขอทุเลา การบังคับในระหว่างอุทธรณ์ และอ้างว่าหนี้ตามเช็คพิพาท จำเลยได้ชำระให้โจทก์เต็มจำนวนแล้วเป็นเงิน 250,000 บาท จำเลยจึงรับผิดเพียงดอกเบี้ยเท่านั้น และหลักประกันใหม่ มีราคาสูงกว่าจำนวนดอกเบี้ยในคดีนี้ โจทก์แถลงว่า ได้ตรวจสอบไปที่กรมบังคับคดีแล้ว ไม่อาจทราบได้ว่าจำเลย ได้วางเงินจำนวน 250,000 บาท ในคดีอาญาซึ่งโจทก์ฟ้องจำเลย ต่อศาลอาญาหรือไม่อย่างไร และถ้ามีเงินจำนวนดังกล่าวจริง ทางจำเลยจะมารับกลับคืนไปเมื่อใดก็ได้ ศาลชั้นต้นจึงสั่งว่า จำเลยมิได้นำหลักประกันตามจำนวนที่ศาลได้กำหนดมาวาง ภายในกำหนดระยะเวลา จึงไม่อนุญาตให้ทุเลาการบังคับ ให้ยกคำร้องขอทุเลาการบังคับระหว่างฎีกา ต่อมาจำเลย ยื่นคำแถลงขอรับต้นฉบับโฉนดที่ดินเลขที่ 43568 ดังกล่าวคืน ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ตรวจคืน (กากสำนวนอันดับ 14,18,19)
ต่อมาจำเลยยื่นคำร้องใหม่อ้างว่า ที่ดินตามโฉนดเลขที่ 43568 ตำบลหนองจะบก จังหวัดนครราชสีมา ดังกล่าวมีราคาประเมินใหม่เป็นจำนวนเงิน 467,500 บาท ซึ่งคุ้มกับจำนวนเงินที่จำเลยต้องรับผิดต่อโจทก์แล้ว หากจำเลยใช้ราคาประเมินใหม่เสนอต่อศาลในวันนัดพิจารณาหลักประกันศาลก็คงอนุญาตให้ทุเลาการบังคับจำเลยจึงขอวางหลักประกันเดิมอีก (โฉนดที่ดินเลขที่ 43568) เพื่อขอทุเลาการบังคับในระหว่าง ฎีกาอีกครั้ง ศาลชั้นต้นสั่งว่า ศาลมีคำสั่งยกคำร้องขอทุเลา การบังคับระหว่างฎีกาแล้ว จำเลยไม่มีสิทธินำหลักประกันมาวางอีก ให้ยกคำร้อง จำเลยอุทธรณ์คำสั่ง (กากสำนวนอันดับ 25,33)
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษาศาลอุทธรณ์ของจำเลย
ก่อนศาลอุทธรณ์ภาค 1 มีคำพิพากษาดังกล่าว จำเลยยื่นคำร้อง ว่าจำเลยได้นำสมุดเงินฝากบัญชีเลขที่ 301-2-32681-2มาวางเป็นหลักประกันในการขอทุเลาการบังคับในระหว่างอุทธรณ์ ต่อมาในระหว่างการพิจารณาคำร้องขอทุเลาการบังคับในระหว่างฎีกา จำเลยได้ยื่นคำร้องขอเปลี่ยนหลักทรัพย์ โดยนำที่ดินโฉนดเลขที่ 43568 ตำบลหนองจะบก อำเภอเมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา มาวางเป็นหลักประกันแทน แต่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่าจำเลยผิดนัดไม่นำหลักทรัพย์ มาวางภายในเวลาที่ศาลกำหนดให้ยกคำร้อง จำเลย จึงขอรับสมุดบัญชีเงินฝากดังกล่าวคืน แต่ยังคงวางโฉนดที่ดิน เลขที่ 43568 ดังกล่าวเป็นประกันต่อศาล ศาลฎีกามีคำสั่งว่า สมุดบัญชีเงินฝากที่จำเลยขอคืนเป็นหลักประกันตามสัญญาประกัน ยังมีผลผูกพันอยู่ ส่วนโฉนดที่ดินที่จำเลยขอวางแทนนั้น ยังอยู่ในระหว่างพิจารณา ซึ่งยังไม่ยุติว่าจะแทนหลักประกันเดิม คือบัญชีเงินฝากที่ขอคืนนี้หรือไม่ จึงไม่มีเหตุที่จะให้คืน บัญชีเงินฝากตามขอ ยกคำร้อง (กากสำนวนอันดับ 78)
คดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกา
ต่อมา จำเลยยื่นคำแถลงนี้ (กากสำนวนอันดับ 79)

คำสั่ง
กรณีจำเลยไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขตามคำสั่งอนุญาตทุเลาการบังคับคดีของศาลฎีกาในระยะเวลาที่ศาลชั้นต้นกำหนดคำร้องขอทุเลาการบังคับคดีถูกยกเลิกไปตามคำสั่งศาลฎีกาแล้วหลักประกันเดิมบัญชีเงินฝากจึงไม่ต้องคืน แต่โฉนดที่ดินเลขที่ 43568 ตำบลหนองจะบก อำเภอเมืองนครราชสีมาจังหวัดนครราชสีมา ที่จำเลยมายื่นต่อศาล เพื่อขอเปลี่ยนหลักประกันเดิม จึงหมดความจำเป็นจะยึดถือไว้ คืนจำเลยไป

Share