คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 161/2502

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การบอกเลิกสัญญาเช่า กฎหมายมิได้บังคับว่า จะต้องทำเป็นหนังสือ ดังนั้นแม้โจทก์จะเพียงมอบอำนาจด้วยวาจาให้บุคคลที่สามบอกเลิกสัญญาเช่าแทนโจทก์บุคคลที่สามที่ว่านั้น ก็ย่อมเป็นตัวแทนของโจทก์โดยชอบ เพราะถือได้ว่าการตั้งตัวแทนเช่นนี้ เป็นการแต่งตั้งแสดงออกชัดแล้ว

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างจากที่ดินของโจทก์ เรียกค่าเช่าที่ค้าง ๑,๔๔๐ บาท และค่าเสียหายเพราะค้างชำระค่าเช่าและจำเลยไปปลูกห้องแถวเพิ่มเติมโดยไม่ได้รับอนุญาตจากโจทก์ และโจทก์ได้มอบให้นางบุญช่วยมีหนังสือบอกเลิกการเช่าให้จำเลยรื้อห้องแถวแล้ว
จำเลยให้การว่า นางบุญช่วยไม่ใช่ตัวแทนโจทก์ คำบอกกล่าวของนางบุญช่วยไม่มีผลตามกฎหมาย และต่อสู้ในข้ออื่น ๆ อีก
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างออกจากที่เช่า และให้ใช้ค่าเสียหายเดือนละ ๖๐ บาท ตั้งแต่วันฟ้องจนกว่าจะรื้อออกไป ส่วนค่าเช่านั้น โจทก์ฟ้องเรียกไม่ได้เพราะการเช่าไม่ได้ทำเป็นหนังสือ
จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ข้อที่จำเลยฎีกาว่านางบุญช่วยไม่ใช่ตัวแทนของโจทก์โดยชอบด้วยกฎหมาย เพราะโจทก์ไม่เคยแสดงออกชัดหรือโดยปริยายตา ป.พ.พ.ม. ๗๙๗ วรรค ๒ ให้จำเลยมีโอกาศได้ทราบเลยว่านางบุญช่วยเป็นตัวแทนโจทก์ การบอกกล่าวเลิกการเช่าของนางบุญช่วยจึงไม่มีผลตามกฎหมายนั้น ศาลฎีกาเห็นว่า กิจการใดที่บังคับไว้โดยกฎหมายว่าจะต้องทำเป็นหนังสือ การตั้งตัวแทนเพื่อกิจการนั้น จึงจะต้องทำเป็นหนังสือ การบอกเลิกสัญญาเช่ากฎหมายมิได้บังคับว่า จะต้องทำเป็นหนังสือ ดังนั้น แม้โจทก์จะเพียงมอบอำนาจด้วยวาจาให้นางบุญช่วยบอกเลิกสัญญาเช่าแทนโจทก์ นางบุญช่วยก็ย่อมเป็นตัวแทนของโจทก์โดยชอบ เพราะถือได้ว่าเป็นการแต่งตั้งแสดงออกโดยชัดตามมาตราที่จำเลยอ้างมานั้นแล้ว ฎีกาข้อนี้ฟังไม่ขึ้น ส่วนที่ฎีกาว่า โจทก์ไม่มีอำนาจบอกเลิกการเช่าเพราะยังมิได้ปฏิบัติตาม ป.พ.พ. ม. ๕๖๐ นั้น จำเลยมิได้ยกขึ้นว่ากล่าวในศาลชั้นต้น ศาลฎีกาไม่วินิจฉัยให้.
พิพากษายืน

Share