แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ฟ้องโจทก์กล่าวว่าเมื่อวันที่ 30 กันย์เวลากลางคืนจำเลยสมคบกันลักเรือหรือระหว่างวันที่ 30 กันย์ถึงวันที่ 60 ตุลาคม จำเลยกับพวกรับเรือไว้โดยรู้ว่าเป็นของได้มาโดยการกระทำผิด ดังนี้เมื่อปรากฏว่าจำเลยให้การรับสารภาพว่าได้กระทำผิดจริงตามฟ้องของโจทก์ แล้วก็แสดงว่าเข้าใจข้อหาของโจทก์ได้ดีแล้ว ลงโทษตาม ม.321 ได้ ถ้าปรากฏว่าจำเลยได้ให้การปฏิเสธมาแล้วแต่ต้นเช่นนี้ต้องฟังว่าจำเลยไม่เข้าใจฟ้องของโจทก์ จะลงโทษจำเลยมิได้
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่าเมื่อวันที่ ๓๐ กันยายน เวลากลางคืน จำเลยได้สมคบกันลักเรือของ ม. หรือระหว่างวันที่ ๓๐ กันย์ ถึงวันที่ ๖ ตุลาคม จำเลยกับพวกรับเรือของ ม.โดยรู้แล้วว่าเป็นของได้มาโดยการกระทำผิด ขอให้ลงโทษจำเลยตามกฏหมายอาญา ม.๒๙๓,๓๒๑
นายตุ๊รับสารภาพ นายน้อมปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าพะยานหลักฐานฉะเพาะนายน้อมจำเลยฟังไม่ได้ว่าทำผิดตามโจทก์หาให้ยกฟ้อง ส่วนนายตุ๊ซึ่งรับสารภาพจึงพิพากษาลงโทษนายตุ๊จำเลยผู้เดียว
ศาลอุทธรณ์พิจารณาพิพากษาว่าตามฟ้องของโจทก์ที่กล่าวมานั้นเป็นฟ้องที่เคลือบคลุม ให้ยกฟ้อง
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาพิพากษาว่าถึงแม้โจทก์จะได้บรรยายฟ้องเช่นนี้ก็ดี แต่เมื่อนายตุ๊จำเลยรับสารภาพในความผิดฐานรับของโจรแล้ว ก็แสดงว่าจำเลยเข้าใจข้อหาของโจทก์ได้ดีแล้ว จึงลงโทษจำเลยได้ ส่วนคดีสำหรับนายน้อมจำเลยนั้นเมื่อให้การปฏิเสธฟ้องของโจทก์ซึ่งกล่าวหาเป็น ๒ นัยในเวลาเดียวกัน จึงฟังว่าจำเลยไม่สามารถเข้าใจฟ้องของโจทก์ พิพากษาให้ยกฟ้องในคดีของนายน้อมจำเลยส่วยคดีนายตุ๊จำเลยพิพากาาแก้ศาลอุทธรณ์ให้ลงโทษตาม ศาลชั้นต้น