แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์จำเลยเป็นเจ้าของทรัพย์ร่วมกัน แม้ในฟ้องไม่ได้ระบุว่าจำเลยได้จัดการทรัพย์ให้เกิดผลประโยชน์อะไรขึ้น ซึ่งโจทก์ควรได้รับส่วนแบ่ง ก็เป็นฟ้องที่รับไว้พิจารณาได้เจ้าของร่วมกันจะเรียกส่วนแบ่งจากเจ้าของร่วมซึ่งเข้าจัดการทรัพย์โดยคิดส่วนแบ่งตามอัตราที่ให้ผู้อื่นเช่าทรัพย์นั้นไม่ได้
ย่อยาว
ข้อเท็จจริงได้ความว่า โจทก์จำเลยเป็นเจ้าของโรงสีร่วมกัน โดยโจทก์เป็นเจ้าของ ๒ ส่วน จำเลยเป็นเจ้าของ ๑ ส่วนเดิมให้ผู้อื่นเช่า ต่อมาจำเลยได้ครอบครองและจัดการโรงสี แต่ไม่เคยแบ่งผลประโยชน์รายได้ให้โจทก์ โจทก์จึงฟ้องเรียกเงินรายได้ ๒ ใน ๓ โดยคิดตามอัตราที่ให้ผู้อื่นเช่า
ศาลชั้นต้นเห็นว่า จำเลยเป็นเจ้าของร่วม ไม่ต้องรับผิดชอบ จึงพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์เห็นว่า โจทก์ไม่ได้กล่าวในฟ้องว่าจำเลยจัดการเกิดผลอะไรขึ้น ฟ้องไม่มีข้อความให้เห็นว่าจำเลยต้องรับผิดต่อโจทก์ ฉะนั้นในชั้นฟ้องก็ชอบจะยกฟ้องโดยไม่ต้องหมายเรียกจำเลยและที่โจทก์นำสืบนั้นนอกประเด็น จึงพิพากษายกฟ้องศาลชั้นต้น แต่มีผู้พิพากษานาย ๑ ทำความเห็นแย้ง
โจทก์ฎีกา ศาลฎีกาเห็นว่า ในชั้นจำเลยสู้คดี ไม่ได้คัดค้านว่า ฟ้องของโจทก์ไม่เป็นฟ้องและศาลชั้นต้นก็รับว่าเป็นฟ้อง ศาลนี้เห็นว่าเป็นฟ้องที่ควรรับไว้พิจารณา แต่ข้อเท็จจริงฟังได้ว่า โจทก์จำเลยจัดการร่วมกัน ข้อที่โจทก์ฟ้องเรียกเงินจึงเป็นอันตกไป จึงพิพากษาแก้ข้อวินิจฉัยของศาลอุทธรณ์ และคงยืนตามข้อที่ยกฟ้องนั้น