แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยใช้ไม้ไผ่โตขนาดข้อมือยาว 4 ศอกตีผู้ตาย 1 ที ถูกที่คิ้วและขอบตาซ้ายเป็นบาดแผลซ้ำดำบวมสันนิษฐานว่าเส้นโลหิต ในสมองแตกและถึงแก่ความตายภายใน 10 ชั่วโมงต่อมา จำเลยเมารถมิได้มีข้อสาเหตุบาดหมางกับผู้ตาย ดังนี้ฟังได้ว่าจำเลยมิได้เจตนาจะฆ่าให้ตาย หากบังเอิญไปถูกที่สำคัญเข้า จึงเกิดผลร้ายแรงจนถึงตายขึ้นเช่นนี้ จำเลยควรมีความผิดฐานฆ่าคนตายโดยไม่เจตนา ความเมารถเป็นข้อแก้ตัวให้พ้นผิด แต่เป็น+
ย่อยาว
คดี ๒ สำนวนนี้ศาลชั้นต้นรวมพิจารณาพิพากษา พนักงานอัยการโจทก์ฟ้องว่าจำเลยสมคบกันฆ่านายอิ่มถึงแก่ความตายโดยเจตนาขอให้ลงโทษตามกฎหมายลักษณะอาญามาตรา ๒๔๙,๖๓,๒๕๖,
ศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุกจำเลยคนละ ๑๕ ปี ตามมาตรา ๒๔๙,๖๓, ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้ยกฟ้องคดีเฉพาะนายเขียดนางสิงและนายแสงจำเลย นอกนั้นยืนตาม
โจทก์และนายกล่อมจำเลยฎีกา
ศาลฎีกาฟังว่านายกล่อมจำเลยเป็นผู้ฆ่านายอิ่มตายแต่ผู้เดียว แต่เห็นว่านายกล่อมจำเลยใช้ไม้ไผ่โตขนาดข้อมือ ยาว ๔ ศอกตีนายอิ่ม ๑ ทีถูกที่คิ้วและขอบตาซ้าย เป็นบาดแผลช้ำดำบวม สันนิษฐานว่าเส้นโลหิตในสมองแตก และถึงแก่ความตายภายใน ๑๐ ชั่วโมงต่อมา นายกล่อมจำเลยมิได้มีข้อสาเหตุบาดหมางกับนายอิ่ม ศาลฎีกาเห็นว่าจำเลยมิได้มีเจตนาฆ่าให้ตาย หากยังเอิญไปถูกที่สำคัญเข้าจึงเกิดผลร้ายแรงจนถึงตายขึ้นเช่นนี้ จำเลยควรมีความผิดฐานฆ่าคนตายโดยไม่เจตนา
พิพากษาแก้ว่านายกล่อมจำเลยมีผิดตามมาตรา ๒๕๑ ให้จำคุก ๗ ปี นอกจากนี้คงยืน