แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยจับเจ้าทุกข์แลเนื้อสุกรของกลางไปโดยหาว่า+ฆ่าสุกรโดยมิได้รับอนุญาตเจ้าทุกข์ก็ยินยอมโดยดี แล้วจำเลยเอาสุกรไปกินเสียเองมีผิดฐานยักยอกตาม ม.314
วิธีพิจารณาความอาญา ฟ้อง,ตัดสิน
ความผิดประเภทเดียวกันฟ้องขอให้ลงโทษฐานลักทรัพย์พิจารณาได้ความว่าจำเลยมีผิดฐานยักยอก ศาลมีอำนาจลงโทษจำเลยฐานยักยอกได้
ย่อยาว
ได้ความว่าจำเลยเป็นนายตรวจสุราได้จับตัว ล. แลเนื้อสุกรโดยหาว่าฆ่าสุกร แลขายสุกรโดยมิได้รับอนุญาต ล.ก็ยินยอมโดยดี จำเลยเป็นผู้คุมตัว ล. และ พ.เป็นผู้หาบสุกร ระหว่างทางจำเลยได้หยิบขาสุกรขึ้นมาขาหนึ่ง ส่งให้ พ. ไปต้มให้จำเลยกิน แล้วจำเลยก็พาตัว ล.ไปส่งที่บ้านกำนัน ปรากฎว่าสุกรนั้นตายเอง แล ล.ก็ไม่ได้เอาไปขาย ล.จึงร้องต่อเจ้าพนักงานขึ้นโจทก์จึงฟ้องศาลขอให้ลงโทษจำเลยตามมาตรา ๑๒๗ – ๒๗๐ – ๒๘๘ – ๓๐๔ – ๗๑
ศาลเดิมพิพากษายกฟ้อง
ศาลอุทธรณ์พิพากษาว่าจำเลยมีผิดฐานยักยอกตาม ม.๓๑๔ ให้จำคุก ๓ เดือนแต่ให้รอการลงอาญาไว้
ศาลฎีกาเห็นว่าเมื่อจำเลยจับตัว ล. กับสุกรของกลางมา ล. ก็ยินยอมโดยดี ความครอบครองยึดถือสุกรย่อมตกอยู่แก่จำเลย แม้จำเลยจะให้ผู้อื่นเป็นผู้หายตามมาก็ดี เมื่อจำเลยเอาสุกรไปเสีย ๑ ขา โดยทุจจริต จึงมีผิดตามมาตรา ๓๑๔ แม้โจทก์จะขอให้ลงโทษฐานลักทรัพย์ ศาลก็ลงโทษฐานยักยอกได้ เพราะเป็นความผิดประเภทเดียวกัน จึงพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์