แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
หลบหนีที่คุมขังโดยใช้อุบายให้สินบนผู้ควบคุมเป็นความผิด 2 กะทง
การกำหนดโทษจำคุกในคดีที่จำเลยถูกหาหลายสำนวนนั้นไม่ให้เกิน 20 ปี
ย่อยาว
จำเลยต้องคุมขังอยู่ในกองรักษาการกระทรวงกลาโหม แล้วบังอาจหลบหนีที่คุมขังไปโดยใช้อุบายให้สินบนแก่ เจ้าพนักงานกองรักษาการดังนี้
ศาลมณฑลทหารบกที่ ๑ ตัดสินว่าจำเลยมีผิดฐานให้สินบนแลหนีที่คุมขังแต่ควรลงโทษฐานคดีที่คุมขังตาม ม.๑๖๓ กะทงเดียว ให้จำคุกรวมทั้งโทษเพิ่มด้วยเป็น ๓ เดือน นับโทษต่อตากคำพิพากษาฎีกาที่ ๙๐๑/๒๔๗๒ แต่รวมโทษจำคุกทั้งหมดไม่ให้เกิน ๒๐ ปี
ศาลทหารบกกลางตัดสินแก้ให้ลงโทษฐานให้สินบนอีกกะทงหนึ่งรวมให้จำคุก ๒ กะทงทั้งโทษเพิ่มด้วยเป็น ๒ ปี
จำเลยฎีกาว่าควรลงโทษจำเลยแต่กะทงเดียว
ศาลฎีกาเห็นว่าพฤตติการณ์ของจำเลยนับว่าได้กระทำต่างกรรมต่างวาระกัน แลเป็นความผิดที่แยกจากกันได้คนละประเภท เพราะความผิดเรื่องหนีที่คุมขังอาจเกิดขึ้นได้โดยไม่ต้องให้สินบน ความผิดของจำเลยเป็นความผิดตามกฎหมาย ๒ กะทงที่ศาลทหารบกกลางวางมาชอบแล้ว แต่ให้แก้กำหนดโทษลงเป็นจำคุกสำหรับความผิดฐานนี้ ๑ ปี ๒ เดือน เพิ่มตามกฎหมายอาชญาทหาร ม.๕๐ เป็น ๑ ปี ๙ เดือน รวมกับโทษฐานหนีที่คุมขังอีก ๓ เดือนเป็น ๒ ปี แลลงโทษตาม ม.๕๙ ให้กึ่งหนึ่งคงจำคุกจำเลย ๑ ปี นอกนี้ยืนตาม