คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 264/2473

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ผู้ที่ได้รับลายมือของเขาไว้สำหรับการอย่างหนึ่ง กลับไปตรอกข้อความว่าผู้มอบลายมือให้การรับคดีที่ถูกฟ้องดังนี้ มีผิดตามมาตรา 315 ข้างต้น เทียบฎีกาที่ 824/72 วิธีพิจารณาอาญาฟ้องขอให้ลงโทษตาม ม.304 ศาลลงโทษตาม ม.315 ได้ เทียบฎีกาที่ 537/70 ตัดสินเกินคำขอไม่ได้

ย่อยาว

เดิมจำเลยเปนโจทก์ฟ้อง ย.โจทก์เรียกราคาทรัพย์ที่ฝากคืน ต่อมาจำเลยหลอกให้ ย.พิมพ์ลายมือในกระดาดที่มีตัวหนังสือและไม่มีตัวหนังสือรวม ๖-๗ แผ่นให้จำเลย โดยกล่าวว่าเพื่อไปจัดการถอนฟ้องคดีที่จำเลยฟ้อง ย.ให้ แต่ปรากฎในภายหลังว่าที่ ย.พิมพ์ลายมืให้นั้นเปนคำให้การของ ย.รับว่าเปนความจริงตามฟ้องของจำเลย กับมีใบมอบฉันทะให้ ว.นำ คำให้การมายื่นต่อศาล ๆ จึงหวัดมินบุรีจึงตัดสินให้ ย.แพ้คดี จนต้องยึดที่ดินขายทอดตลาด และจำเลยเองได้รับซื้อไว้ และปรากฏว่า ย.ไม่รู้หนังสือ คำให้การที่มีพิมพ์ลายมือ ย.เปนข้อความที่จำเลยทำปลอมขึ้นเพื่อประโยชน์ตนดังนี้ โจทก์จึงฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตาม ม.๓๐๔-๒๒๖ ฯลฯ
ศาลเดิมตัดสินยกฟ้องโจทก์
ศาลอุทธรณ์ตัดสินกลับว่า จำเลยมีผิดตาม ม.๒๒๒-๒๒๓ ให้จำคุกจำเลย ๖ เดือน และให้จำเลยโอนโฉนดคืนให้ ย. ศาลฎีกาเห็นว่า จำเลยมีผิดตาม ม.๓๑๕ ตามนัยฎีกาที่ ๘๒๔/๒๔๗๒ แม้โจทก์มิได้ขอมาก็ดีแต่มีข้อความกล่าวไว้ชัดเจนในฟ้อง และเปนความผิดประเภทเดียวกับ ม.๓๐๔ ที่โจทก์อ้าง ศาลย่อมลงโทษจำเลยได้ตามฎีกาที่ ๕๓๗/๒๔๗๐ ส่วนข้อที่ศาลอุทธรณ์บังคับให้จำเลยโอนโฉนดคืนให้ ย.ด้วยนั้นยังมิชอบ เพราะข้อที่ศาลลงโทษจำเลยเปนคนละส่วนกับการขายทอดตลาดที่ดิน ทั้ง ย.ก็มิได้ฟ้องเปนทางแพ่งขึ้นมา จึงตัดสินแก้ศาลอุทธรณ์ให้ลงโทษจำเลยตามบทกฎหมายที่กล่าวมาข้างต้น และให้ยกข้อที่บังคับให้จำเลยโอนโฉนดให้ ย.เสีย แต่ไม่ตัดสิทธิ ย.จะฟ้องในทางแพ่ง นอกจากนี้ยื่นตามศาลอุทธรณ์

Share