แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
เข้ามาด่าและทำร้ายพวกจำเลย แต่สู้พวกจำเลยไม่ได้จึงวิ่งหนีไปบนบ้านของผู้อื่นจำเลยยังไล่ตามไปบนบ้านลากเอาตัวออกมาทำร้ายอีกดังนี้ เป็นการที่จำเลยกระทำโดยถูกยั่วโทษะ มีคนมาทำร้ายบิดาจึงเข้าทำร้ายผู้นั้น ได้ลดฐานยั่วโทษะ มีคนเข้าทำร้ายผู้อื่นจึงเข้าทำร้ายผู้ทำร้ายนั้น ไม่ได้ลดฐานยั่วโทษะ ฎีกาอุทธรณ์แก้มาก ศาลเดิมพิพากษาให้จำคุกจำเลยคนละ 2 ปีตาม ม.256 ศาลอุทธรณ์แก้ให้จำคุกคนละ 6 เดือนตาม ม.256-50-53 +นี้เป็นแก้มาก อ้างฎีกา ที่ 41/2473 ที่ 60/2476
ย่อยาว
คดีนี้ได้ความว่า โจทก์ไปด่าท้าทายแลทำร้าย น.จำเลยซึ่งเป็นกำนันถึงบ้าน ล.บุตรลงไปช่วยบิดาก็ถูกโจทก์ทำร้ายเอา ซ.แล ป. กับ ส.ซึ่งเป็นลูกบ้านจึงลงไปช่วยทำร้ายโจทก์ ๆ สู้ไม่ได้ วิ่งหนีไปบนบ้านของผู้อื่น น.กับพวกไล่ตามโจทก์ไปถึงที่บ้านนั้น น, ล. แล ซ. จำเลยขึ้นไปบนบ้านลากเอาตัวโจทก์ออกมาแล้วช่วยกันทำร้ายโจทก์ ส่วน ป.แล ส.จำเลยยืนอยู่ข้างล่าง มิได้ขึ้นไปช่วยจำเลยอื่น ๆ ด้วย ปรากฏว่าการทำร้ายในตอนหลังนี้โจทก์มีบาดเจ็บสาหัส ส่วนการทำร้ายในตอนแรกไม่ปรากฏว่าโจทก์ถูกทำร้ายถึงบาดเจ็บ
ศาลเดิมพิพากษาให้ลงโทษจำคุกจำเลยคนละ ๒ ปีตาม ม.๒๕๖
ศาลอุทธรณ์เห็นว่าการกระทำของจำเลยเป็นการกระทำเพื่อป้องกัน น.แต่เกินกว่าเหตุตาม ม.๕๐-๕๓ พิพากษาให้จำคุกจำเลยคนละ ๖ เดือน
โจทก์ฎีกาข้อเท็จจริง
ศาลฎีกาเห็นว่าฉะเพาะ ป. แล ส.จำเลยปรากฏว่ามิได้ร่วมคิดกับจำเลยอื่น ๆ ทำร้ายโจทก์ ทั้งในตอนแรกแลตอนหลัง จึงมีผิดตาม ม.๓๓๘(๓) ให้จำคุกคนละ ๑๐ วัน ส่วน ป. ล. แล ซ. นั้นเห็นว่าการที่โจทก์ด่าท้าทายแลทำร้ายจำเลยแล้ววิ่งหนีไป จำเลยยังตามไปแลลากตัวโจทก์ออกมาทำร้ายเป็นการกระทำโดยถูกยั่วโทษะ จึงพิพากษาว่าจำเลยมีผิดตาม ม.๒๕๒-๕๕ ให้จำคุก คนละ ๑ ปี แต่ส่วน ป, แล ส.ไม่มีเหตุควรลดโทษตาม ม.๕๕