เรื่อง เช่าซื้อ ค้ำประกัน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7097/2561
ใช้เวลาอ่านประมาณ 1 นาที
ตามสัญญาเช่าซื้อรถยนต์ในกรณีที่ผู้ให้เช่าซื้อจะบอกเลิกสัญญาเพราะเหตุที่ผู้เช่าซื้อผิดนัดจะต้องปฏิบัติตามข้อ 10.1 ที่กำหนดว่า กรณีผู้เช่าซื้อผิดนัดไม่ชำระเช่าซื้อ 3 งวด ติดต่อกัน และเจ้าของได้บอกกล่าวเป็นหนังสือให้ผู้เช่าซื้อชำระค่าเช่าซื้อที่ค้างชำระภายในเวลาอย่างน้อย 30 วัน นับแต่วันที่ผู้เช่าซื้อได้รับหนังสือ หากผู้เช่าซื้อไม่ชำระค่าเช่าซื้อพร้อมภาษีมูลค่าเพิ่ม เบี้ยปรับ ค่าใช้จ่ายและเงินอื่นใดที่ต้องชำระให้ครบจำนวนงวด ณ วันที่ชำระ ให้ถือว่าสัญญานี้สิ้นสุดลงทันที แต่จำเลยที่ 1 ผิดนัดชำระค่าเช่าซื้อเพียง 2 งวด ในขณะที่โจทก์ยังไม่มีสิทธิเลิกสัญญาเพราะเหตุผู้เช่าซื้อผิดนัด สัญญาเช่าซื้อจึงยังไม่เลิกกันเพราะผู้เช่าซื้อประพฤติผิดสัญญาตามข้อสัญญาดังกล่าว ทั้งไม่อาจถือได้ว่าการที่จำเลยที่ 1 ส่งมอบรถที่เช่าซื้อคืนเป็นการสละประโยชน์แห่งระยะเวลาที่ตนมีสิทธิชำระหนี้ตามสัญญาหรือตามที่กฎหมายคุ้มครองเพราะการส่งมอบรถอันเป็นวัตถุแห่งหนี้ตามสัญญาเช่าซื้อคืนเป็นการแสดงเจตนาเลิกสัญญาโดยตรง ส่วนกรณีที่จำเลยที่ 1 ซึ่งผิดนัดชำระค่าเช่าซื้อได้นำรถมาคืนโจทก์ ณ สาขาของโจทก์ แม้ตามพฤติการณ์จะถือว่าเป็นการบอกเลิกสัญญาโดยฝ่ายผู้เช่าซื้อตามสัญญาเช่าซื้อข้อ 13 และข้อ 14 ที่กำหนดให้สิทธิผู้เช่าซื้อสามารถบอกเลิกสัญญาในเวลาใด ๆ เสียก็ได้โดยการส่งมอบรถที่เช่าซื้อคืนแก่เจ้าของ ณ ที่ทำการของเจ้าของและตกลงรับผิดในค่าขาดราคาหากว่านำรถออกขายทอดตลาดได้ราคาน้อยกว่ามูลหนี้ส่วนที่ขาดอยู่ตามสัญญาก็ตาม แต่เมื่อโจทก์ผู้ให้เช่าซื้อเป็นผู้กำหนดเงื่อนไขต่าง ๆ ไว้ในสัญญาเช่าซื้อ ดังนั้น เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมแก่ผู้เช่าซื้อ เงื่อนไขที่จะมีผลทำให้ผู้เช่าซื้อต้องรับผิดจึงต้องตีความโดยเคร่งครัด ถ้ามีข้อสงสัยต้องตีความให้เป็นประโยชน์แก่ผู้เช่าซื้อ เมื่อสัญญาข้อ ๑๔ กำหนดเงื่อนไขไว้ว่า การบอกเลิกสัญญาโดยการส่งมอบรถที่เช่าซื้อคืน ผู้เช่าซื้อต้องชำระเงินทั้งปวงที่ถึงกำหนดชำระหรือเป็นหนี้ตามสัญญานี้อยู่ในเวลานั้นทันที….และผู้เช่าซื้อตกลงให้เจ้าของมีสิทธิเรียกร้องค่าเสียหายตามที่กำหนดไว้ในข้อ 13 อีกส่วนหนึ่ง (ถ้ามี) ด้วยเหตุนี้ การส่งมอบรถที่เช่าซื้อคืนที่จะถือว่าเป็นการแสดงเจตนาบอกเลิกสัญญาโดยฝ่ายผู้เช่าซื้อจึงต้องมีการปฏิบัติครบถ้วนตามเงื่อนไขที่สัญญากำหนดไว้ทุกประการ เมื่อไม่ปรากฏว่าจำเลยที่ 1 ได้ชำระค่าเช่าซื้อที่ค้างชำระ 2 งวด ในขณะคืนรถแก่โจทก์ จึงไม่อาจถือได้ว่าการใช้สิทธิบอกเลิกสัญญาเช่าซื้อของจำเลยที่ 1 เป็นอันครบถ้วนถูกต้องตามสัญญาเช่าซื้อ โจทก์จึงไม่อาจหยิบยกข้อตกลงเรื่องความรับผิดในเรื่องขายทอดตลาดได้ราคาที่น้อยกว่ามูลหนี้ส่วนที่ขาดอยู่ตามสัญญามาใช้บังคับเอากับจำเลยที่ 1 เพราะเหตุผู้เช่าซื้อส่งมอบรถคืนได้ การที่จำเลยที่ 1 นำรถที่เช่าซื้อไปส่งมอบคืนและโจทก์รับไว้โดยไม่ได้โต้แย้ง พฤติการณ์ย่อมถือได้ว่าโจทก์และจำเลยที่ 1 ต่างสมัครใจเลิกสัญญากันโดยปริยาย คู่สัญญาจึงไม่มีสิทธิและหน้าที่ระหว่างกันตามสัญญาอีกต่อไป โจทก์ผู้ให้เช่าซื้อจะฟ้องเรียกค่าขาดราคาคืนจากการขายทรัพย์ที่เช่าซื้อหรือราคาทรัพย์ที่เช่าซื้อส่วนที่ขาดอยู่ตามสัญญาเช่าซื้อซึ่งระงับไปแล้วหาได้ไม่ ประกอบกับค่าเสียหายที่เป็นมูลหนี้ส่วนที่ขาดอยู่ตามสัญญานั้นเป็นค่าเสียหายที่โจทก์เรียกร้องได้ในกรณีที่มีการบอกเลิกสัญญาโดยชอบเท่านั้น ไม่ใช่ค่าเสียหายที่สามารถเรียกร้องเพื่อกลับคืนสู่ฐานะเดิมได้ในกรณีที่สัญญาเลิกกันด้วยเหตุอื่นตาม ป.พ.พ. มาตรา 391 จำเลยทั้งสองจึงไม่มีหน้าที่ต้องรับผิดชำระเงินในค่าขาดราคา (ฎีกา 7097/2561)