เรื่อง ยืม จำนอง (คำพิพากษาศาลฎีกาที่  5630/2562)

เรื่อง ยืม จำนอง

ใช้เวลาอ่านประมาณ 1 นาที

โจทก์เป็นเจ้าหนี้เงินกู้จำเลยตามที่ได้รับโอนสิทธิเรียกร้องจากเจ้าหนี้เดิม  โจทก์ย่อมมีสิทธิที่จะให้ชำระหนี้ของตนจากทรัพย์สินของจำเลยผู้เป็นลูกหนี้จนสิ้นเชิง  รวมทั้งเงินและทรัพย์สินอื่น ๆ  ซึ่งบุคคลภายนอกค้างชำระแก่จำเลยด้วยอย่างเจ้าหนี้สามัญ  ตาม ป.พ.พ. มาตรา  214 ทั้งจำเลยยังจำนองที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างเป็นประกันของตนแก่เจ้าหนี้เดิมและโจทก์เป็นผู้รับโอนสิทธิจำนอง  โดยมีข้อตกลงว่าหากบังคับจำนองได้เงินไม่พอชำระหนี้  จำเลยยอมรับผิดในส่วนที่ขาดจนครบจำนวน  อันเป็นความตกลงยกเว้นบทบัญญัติ  มาตรา  733  ซึ่งใช้บังคับได้  โจทก์จึงเป็นเจ้าหนี้จำนองอีกฐานะหนึ่งซึ่งมีสิทธิได้รับชำระหนี้จากทรัพย์สินที่จำนองก่อนเจ้าหนี้สามัญด้วย  เมื่อโจทก์มีคำขอท้ายคำฟ้องว่า  หากจำเลยไม่ชำระหนี้เงินตามคำขอ  ให้ยึดอายัดทรัพย์สินของจำเลยและทรัพย์จำนองพร้อมสิ่งปลูกสร้างออกขายทอดตลาดนำเงินมาชำระหนี้แก่โจทก์จนครบถ้วน  ซึ่งเป็นการขอให้บังคับตามสิทธิของโจทก์ผู้เป็นเจ้าหนี้จากทรัพย์สินของจำเลยผู้เป็นลูกหนี้โดยไม่จำกัดว่าเป็นทรัพย์สินที่จำนองหรือไม่ จนกว่าโจทก์จะได้รับชำระหนี้โดยสิ้นเชิง จึงชอบที่ศาลจะบังคับให้ดังที่กฎหมายบัญญัติไว้  ที่ศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษาในส่วนนี้เพียงว่าหากจำเลยไม่ชำระหนี้หรือชำระไม่ครบให้ยึดทรัพย์จำนองออกขายทอดตลาดนำเงินมาชำระหนี้แก่โจทก์จนครบ เป็นทำนองกำหนดวิธีการบังคับชำระหนี้อย่างเป็นลำดับโดยให้โจทก์ต้องบังคับชำระหนี้จากทรัพย์จำนองก่อนเท่านั้น  ย่อมเป็นการจำกัดสิทธิบังคับชำระหนี้ของโจทก์ให้ด้อยลงกว่าที่กฎหมายกำหนดซึ่งไม่ชอบ./  

(ฎีกา 5630/2562)  (อัพเดท 24.02.2563)

Share