เรื่อง เช่าซื้อ ค้ำประกัน (คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2734/2561)

เรื่อง เช่าซื้อ ค้ำประกัน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2734/2561

ใช้เวลาอ่านประมาณ 1 นาที

ตามสัญญาเช่าซื้อข้อ 10 ระบุว่า “ถ้าหากผู้เช่าซื้อ (ก) ผิดนัดชำระค่าเช่าซื้อ 3 งวด ติด ๆ กัน และเจ้าของได้มีหนังสือบอกกล่าวให้ผู้เช่าซื้อชำระค่าเช่าซื้อที่ผิดนัดชำระภายในเวลาไม่น้อยกว่า 30 วัน นับแต่วันที่ได้รับหนังสือ แต่ผู้เช่าซื้อยังคงเพิกเฉยไม่ชำระค่าเช่าซื้อที่ผิดนัดชำระให้เสร็จสิ้นภายในเวลาที่กำหนด หรือ (ข) …ฯลฯ ให้เจ้าของมีสิทธิบอกเลิกสัญญาเช่าซื้อได้โดยทันที…” แม้จำเลยที่ 1 ผิดนัดชำระค่าเช่าซื้อ 3 งวด ติดต่อกัน และโจทก์มีหนังสือแจ้งให้จำเลยที่ 1 นำค่าเช่าซื้อที่ค้างชำระมาชำระภายใน 30 วัน นับแต่วันที่หนังสือฉบับนี้ส่งถึงจำเลยที่ 1 หากพ้นกำหนดเวลาดังกล่าวแล้วไม่ชำระถือว่าเป็นการบอกเลิกสัญญา ซึ่งโจทก์ได้ปฏิบัติตามสัญญาเช่าซื้อข้อ 10 (ก) แล้ว อันสอดคล้องกับประกาศคณะกรรมการว่าด้วยสัญญาเรื่องให้ธุรกิจให้เช่าซื้อรถยนต์และรถจักรยานยนต์เป็นธุรกิจที่ควบคุมสัญญา พ.ศ. 2543 ที่ใช้บังคับในขณะนั้น อันเป็นบทบัญญัติที่คุ้มครองผู้บริโภคมิให้โจทก์บอกเลิกสัญญาก่อนครบกำหนดระยะเวลา 30 วัน ก็ตาม แต่จำเลยที่ 1 ผู้บริโภคสามารถสละสิทธิความคุ้มครองตามสัญญาดังกล่าวได้ เมื่อจำเลยที่ 1 นำรถที่เช่าซื้อไปส่งคืนแก่โจทก์ในวันเดียวกับวันที่ได้รับหนังสือทวงถามจากโจทก์ โดยโจทก์รับรถที่เช่าซื้อไว้โดยมิได้อิดเอื้อนหรือสงวนสิทธิ์ในการเรียกค่าเสียหายหรือค่าขาดราคา สัญญาเช่าซื้อจึงไม่ได้เลิกกันเพราะจำเลยผิดนัดไม่ชำระค่าเช่าซื้อตามสัญญาเช่าซื้อ และจะถือว่าจำเลยที่ 1 ใช้สิทธิบอกเลิกสัญญาด้วยการคืนรถยนต์ที่เช่าซื้อตามสัญญาเช่าซื้อข้อ 13 มิได้ เพราะตามข้อสัญญาดังกล่าวระบุว่า ผู้เช่าซื้อจะบอกเลิกสัญญาเช่าซื้อเสียก็ได้ โดยบอกกล่าวเป็นหนังสือให้เจ้าของซึ่งหมายถึงโจทก์ผู้ให้เช่าซื้อทราบล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 7 วัน และส่งมอบรถคืนในสภาพเรียบร้อยใช้การได้ดี และเจ้าของสงวนสิทธิ์ที่จะเรียกร้องค่าเสียหายที่กำหนดไว้ในสัญญาก็ตาม แต่ไม่ปรากฏว่าจำเลยที่ 1 มีหนังสือบอกเลิกสัญญาโดยบอกกล่าวล่วงหน้าให้โจทก์ทราบไม่น้อยกว่า 7 วัน และโจทก์ผู้ให้เช่าซื้อแจ้งหรือสงวนสิทธิ์ในการเรียกค่าขาดราคาจากจำเลยที่ 1 แต่อย่างใด จึงถือไม่ได้ว่าจำเลยที่ 1 บอกเลิกสัญญาเช่าซื้อตามสัญญาเช่าซื้อข้อ 13 แต่พฤติการณ์ที่จำเลยที่ 1 นำรถที่เช่าซื้อคืนแก่โจทก์และโจทก์รับรถดังกล่าวไว้โดยมิได้อิดเอื้อน ถือได้ว่าคู่สัญญาสมัครใจเลิกสัญญาเช่าซื้อต่อกัน คู่กรณีแต่ละฝ่ายจำต้องให้อีกฝ่ายหนึ่งได้กลับคืนสู่ฐานะดังที่เป็นอยู่เดิมตามมาตรา 391 วรรคหนึ่ง โจทก์จึงไม่มีสิทธิเรียกค่าขาดราคาให้จำเลยทั้งห้ารับผิดต่อโจทก์ 

 (ฎีกา 2734/2561)  

Share